วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557

NC Impress ตอนที่ 3 เเผนการ {Chanbaek}












“ อี้ชิง..แกไปไหนมาห๊ะ!...” เสียงตะคอกของพ่อดังขึ้นเมื่อเขาเดินกลับเข้ามาในบ้าน ร่างบางชะงักรู้สึกเหมือนตัวเองขาดการควบคุม มือที่คอยปิดริมฝีปากค่อยๆปล่อยลงข้างตัว

“ ขอ..ขอโทษครับ..”

“ พอเถอะค่ะคุณ..เขากลับมาปลอดภัยก็ดีแล้ว..” คุณผู้หญิงของบ้านเอ่ยปรามเสียงเรียบแล้วมองเด็กคนที่เหมือนตื่นอะไรมา แบบที่ไม่ใช่จางอี้ชิง

“ อย่าทำแบบนี้อีกนะ..รู้บ้างรึเปล่าว่าคนที่บ้านเป็นห่วงมากแค่ไหน..”

“...........”
“ มาเหนื่อยๆขึ้นไปอาบน้ำแล้วลงมาทานข้าวซะอี้ชิง..”

“ ผม..ทานมาแล้วครับ..” 

“ อะไร..” พ่อเขาขมวดคิ้วเมื่อลูกชายคนเดียวพูด

“ งั้นเหรอ..งั้นก็ขึ้นไปพักผ่อนเถอะ แต่ต่อไปจะไปไหนมาไหนก็ควรติดต่อมาก่อนถึงเธอจะไม่อยากจะให้ใครไปรอก็ตาม ก็ต้องโทรมาบอกที่บ้านไม่ใช่หายไปแบบนี้..”

“ ขอโทษครับ...” อี้ชิงผละตัวเองขึ้นไปข้างบนโดยที่ไม่กล้าสู้หน้าใครในตอนนี้ 

“ คุณคะ...ใจเย็นๆก่อนเถอะ..” คุณนายจางเตือนสติสามีที่กำลังโมโหงุ่นง่าน 

“ ........... “

“ ฉันว่าเรามาหาวิธีกันท่าไม่ให้อี้ชิงเจอกับอู๋อี๋ฟานกันเถอะค่ะ..”

“ เหม่ยหลิน...ฉันไม่น่าให้เด็กคนนี้อยู่ในงานเลี้ยงเลยจริงๆ..อี้ชิงไม่ชอบงานสังคมแต่ฉันก็ยังบังคับให้เขาอยู่ ” 

“............”

“ มันเป็นความผิดของฉัน..” คำพูดเหมือนจะโทษตัวเองดังออกมาจากปาก คนเป็นภรรยาคงได้แค่พูดปลอบและช่วยกันหาวิธีเพื่อไม่ให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ถ้าอู๋อี๋ฟานเอาตัวจางอี้ชิงไปได้แม้แต่เรื่องผิดกฎหมายพวกเขาก็ต้องทำให้อย่างเลี่ยงไม่ได้...


ก็อกๆ...

เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่ประตูจะเปิดออกโดยเป็นนายหญิงของบ้าน อี้ชิงหันไปมองแต่ก็ยังให้ความเคารพคนตรงหน้าราวกับเป็นผู้มีพระคุณ

“ ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอน่ะ...มีเวลารึเปล่า” 

“ ครับ...” อี้ชิงปล่อยให้เจ้าของบ้านตัวจริงเดินเข้ามาในห้องนอน ร่างบางของคุณนายจางนั่งลงบนเตียงนุ่มเธอมองเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ไม่ไกลและเริ่มต้นพูดธุระบางอย่างที่ไม่อาจจะปกปิดไว้ได้

“ เธอ...คงรู้จักอู๋อี๋ฟานแล้วใช่มั้ย..” 

“ แล้วเขาเกี่ยวอะไรด้วยเหรอครับ..” อี้ชิงขมวดคิ้วตัดสินใจจะถามออกไปเพราะดูเหมือนคุณเหม่ยหลินจะทำหน้าไม่ดีตั้งแต่ที่เขากลับมาแล้ว

“ อี้ชิงฉันอยากให้เธออยู่ห่างจากเขาได้รึเปล่า..มันอาจมีบางเรื่องที่เธอคงไม่เข้าใจแต่ผู้ชายคนนั้นเข้ามาเพื่อผลประโยชน์บางอย่างจากพวกเรา “

“............” ร่างบางนิ่งเมื่อคุณนายจางเอ่ยขึ้น  คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อยเมื่อต้องคิดถึงคงที่พึ่งแยกกันเมื่อไม่นาน
“ เธอเองก็เป็นคนในครอบครัว..และฉันก็หวังว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น “

“ ผมกับเขาเราไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ต้องเกี่ยวข้องกันหรอกครับ..” 

“ อู๋อี๋ฟานเป็นคนที่อยากได้อะไรก็ต้องได้...ผู้ชายคนนี้น่ากลัวมากเพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเธอจำคำพูดฉันไว้นะ อย่าได้หลงกลผู้ชายคนนั้น “

“..........”

“ เขาอาจจะทำเรื่องบางอย่าง...แต่ฉันอยากให้เธอรู้อี้ชิงทุกคนต่างก็ปกป้องเธอ..” 

“ ผมไม่เข้าใจครับ...”

“ ตอนนี้อาจจะไม่เข้าใจ..แต่ซักวันเธอจะรู้เอง..” เธอยิ้มบางๆก่อนจะเดินออกไปจากห้องเพื่อให้อีกคนได้พักผ่อน  อี้ชิงถอนหายใจเบาๆเอาแต่คิดว่าแล้วมันเกี่ยวอะไรกับตัวเขา มันเกี่ยวอะไรที่เขาจะต้องสนใจผู้ชายที่ชื่ออู๋อี๋ฟานนั่นด้วย

................................................................................................................

รถสปอร์ตสุดหรูแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านที่เรียกได้ว่าคฤหาสแท้ๆพร้อมกับเจ้าของรถลงมาด้วยท่าทางมีความสุขสุดๆ อี๋ฟานเดินฮัมเพลงโยนกุญแจรถให้ลูกน้องที่ยืนรอเจ้านาย 

“ นายครับ..คุณจุนมยอนรออยู่ในห้องรับแขกครับ..” 

“ ว่าไงนะ...” อี๋ฟานตวัดตามามองอย่างหงุดหงิดเมื่อได้ยินชื่อของว่าที่คู่หมั้น

“ คุณจุนมยอนมาครับ...”

“ .......... “ ร่างสูงขยับเดินเข้าไปในทิศทางที่คนสนิทบอกว่าอีกคนอยู่ที่ไหน ตาคมมองร่างบางของว่าที่คู่หมั้นที่กำลังนั่งอยู่ตรงโซฟากลางห้องแล้วยังมองตรงมายังเขาด้วยสายตาเรียบนิ่งเหมือนกัน

“ ไปไหนมา....” เสียงหวานๆแต่เย็นเฉียบดังขึ้นเมื่อเห็นอู๋อี๋ฟานเดินเข้ามาหาเขา

“ จะมาทำไมถึงไม่บอกล่ะ..” ร่างสูงเดินเข้ามานั่งตรงโซฟาแล้วยกยิ้มให้

“ ถ้าบอก..ฉันจะได้รู้มั้ยว่าคุณเที่ยวเล่นไม่เป็นเวลาแบบนี้..”

“ หึๆ..อะไรล่ะฉันมีธุระต้องทำต่างหาก...” อี๋ฟานยักไหล่ราวกับไม่สนใจคำพูดที่กำลังคาดคั้น 

“ ทำอย่างกับฉันไม่รู้นิสัยคุณไปได้นะ..”

“............”

“ แล้วเด็กที่ชื่อจางอี้ชิงนี่..เป็นใครเหรอครับที่รัก..” อยู่ๆคนสวยที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาก็เอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มน่ากลัว ตาคมเหลือบไปมองแล้วจ้องหน้าจุนมยอน

“ อย่ายุ่งกับคนของฉัน...” 
 
“ เป็นถึงขนาดนี้เลยรึไง...” 

“ ก็ถ้าเธอเข้าไปยุ่งวุ่นวายให้ฉันเสียแผนล่ะก็..เธอคงได้รู้ว่าฉันเอาจริงยังไง..” อี๋ฟานพูดเสียงนิ่งเหมือนออกคำสั่งกลายๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินขึ้นข้างบนไม่สนว่าคนที่อุตส่าห์รีบกลับมาจากเกาหลีเพื่อมาล้วงคอเอาความจริงเรื่องเด็กที่ชื่อจางอี้ชิงจะรู้สึกยังไง

“ คงต้อง...เจอกันหน่อยแล้วมั้ง คุณหนูจาง...”   จุนมยอนพึมพำเบาๆเมื่อคิดว่าคนตรงหน้าไม่ใช่แค่หลงธรรมดา  เขาคงไม่สนใจเพราะคู่หมั้นตัวเองเป็นคาสโนว่าตัวพ่อถ้าไม่รู้ว่าอี๋ฟานลงทุนขู่ครอบครัวนั้นเพื่อจะเอาคนๆนั้นมาเชยชม เป็นความต้องการที่ไร้สาระที่สุด  จุนมยอนรู้ดีเรื่องจะนอนกับผู้หญิงไปทั่วมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เราต่างตกลงกันไว้ถ้าไม่แต่งงานกันจะไม่ก้าวก่าย ซึ่งเขาก็ไม่เคยยุ่ง ครอบครัวเขาอยู่เกาหลี แต่อี๋ฟานอยู่ฮ่องกง ไม่สามารถมารับรู้พฤติกรรมกันได้แน่นอนนอกจากว่าตัวเขาเนี่ยแหละจะมีคนจับตาดูไว้และอี๋ฟานก็ไม่เคยสนใจ 

“ ซูโฮมาถึงที่นี่ทำไมถึงไม่บอกฉันวะ!...” อี๋ฟานหันไปเล่นงานเมื่อเรียกให้จื่อเทาเข้ามาหาในห้องทำงาน

“ ผมติดต่อเจ้านายไม่ได้ครับ..”

“ แล้วเขารู้เรื่องอี้ชิงได้ยังไง..”

 
“ เรื่องนั้นผมไม่ทราบครับ..” 

“ คิดว่าฉันอยากได้ยินคำว่าไม่ทราบจากปากแกมั้ยห๊ะ!...” อี๋ฟานตวาดเสียงดังใส่ มันหงุดหงิดที่สุด..ถ้าจุนมยอนไปยุ่งกับจางอี้ชิงเมื่อไหร่คงเป็นเรื่องแน่ แค่นี้ก็เล่นด้วยยากอยู่แล้ว

“ ...........”

“ ห่าเว้ย..ถ้าหมอนั่นไปหาเรื่องแล้วฉันไม่ต้องเริ่มใหม่หมดเรอะ!...” มือหนาตบลงบนโต๊ะอย่างอารมณ์ร้อนเหมือนไฟ 

“ ......... “

“ ไปหาตัวไอ้พวกปากสว่าง..แล้วลากมันมาให้ฉัน คนที่รู้เรื่องตอนนี้มันมีไม่กี่คนหรอก อีกอย่างอย่าให้ซูโฮรู้ด้วย “
“ ได้ครับนาย...”

“ อ้อ..แกไปตามดูว่าที่เมียฉันหน่อยล่ะกัน...อย่าให้ใครเข้าใกล้เด็ดขาดแม้แต่คู่หมั้นฉัน “ อี๋ฟานนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานเนื้อดีหลังจากออกคำสั่งเด็ดขาดออกไป  ขืนปล่อยให้จุนมยอนไปเจอแล้วล่ะก็คงไม่พ้นบอกความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาแล้วคนอย่างจางอี้ชิงต้องระวังตัวจากเขาเป็นเท่าตัวแน่ 

“ ไม่ว่าจะเป็นใครฉันก็ไม่ยอมให้ใครมาขวางทางเด็ดขาด อะไรที่ได้มายากๆ มันก็ควรค่าที่จะขย้ำ “ 


..............................................................................................

รถถูกจอดเทียบเมื่อถึงหน้ามหาลัยชื่อดัง ลู่หานกำลังจะเปิดประตูรถโดยไม่หันมาขอบคุณคนที่อุตส่าตื่นเช้ามาส่งซักนิด มือหนาเลยต้องรั้งร่างบางเอาไว้ด้วยตัวเอง

“ เดี๋ยวไปส่งหน้าคณะ เดินเข้าไปมันไกล..”

“ ผมเดินเองได้..ไม่รบกวน..”

“ จะดื้อทำไมครับ..พี่จะไปส่งนี่ไม่ชอบ?...” 

“ หยุดเรียกแทนตัวเองว่าพี่เถอะ..ฟังเลยแล้วมันเจ็บ..” ลู่หานปลดมือเขาออกอย่างไม่ไยดี

“ เอาสิ..คิดว่าเดินเข้าไปไหวก็ตามสบาย เจ็บไม่ใช่เหรอ..ขนาดลงมาจากหอยังต้องให้ฉันอุ้มเลย..”

“ เงียบไปเลย!..” ลู่หานหันไปเปิดประตูด้วยความโมโหก่อนจะลงจากรถ เซฮุนหัวเราะเบาๆเมื่อต้องเห็นไอ้คนอวดดีเดินเหมือนจะล้มไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าตัวเองไปโดนอะไรมา ร่างสูงเลยต้องเปิดประตูแล้วเดินลงไปอุ้มลู่หานกลับมาที่รถเหมือนเดิม

“ ปล่อยนะ!!..” มือบางทุบลงบนร่างกายที่แข็งแรง 

“ ร้องไป..อยากอายมั้ย..” 

“..........”

“ เธอนี่มันดื้อ...” เซฮุนพึมพำก่อนจะยัดร่างบางในอ้อมแขนเข้าไปในเฟอร์รารี่สีดำเงา ใบหน้าหวานแดงซ่านขึ้นมาทันทีไม่ค่อยได้เจอหรอกไอ้ที่คุยกันดีๆ ตั้งแต่ที่เซฮุนมีเรื่องบาดหมางกับพี่ชายเขา ร่างสูงขับรถเข้ามาส่งถึงหน้าคณะจริงๆ

“ เย็นนี้จะให้มารับมั้ย..”

“ ไม่ครับ..ไม่ต้องเจอกันได้ยิ่งดี..”

“ หึๆ..ทำไมล่ะ..อยากกินข้าวด้วยนะ..” เซฮุนพูดเสียงหยอกล้อก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มนิ่มๆซักที

“ อย่าทำแบบนี้ได้มั้ย..”

“ ทำไม..”

“ หน้าคณะ..ผมอาย..อีกอย่างไม่ได้เป็นอะไรกัน..” ลู่หานพูดแค่นั้นก่อนจะเปิดประตูลงไปทันที เซฮุนมองจนอีกฝ่ายเดินเข้าไปในคณะก่อนจะขับรถออกไป

“ เสี่ยวลู่!!...” เสียงน่ารักๆดังขึ้นจากด้านหลัง ก่อนที่ร่างกายเขาจะชะงักเมื่อถูกตบไหล่

“ อะ..คะ..คยองซู..”

“ ก็เออซิ..เรียกตั้งนานเป็นอะไรรึเปล่า..” ดวงตากลมโตมองสำรวจเพื่อนอย่างนึกสงสัย ดูเหม่อๆลอยๆนะ..

“ เปล่า..”

“ อืม..งั้นไปเรียนเถอะ..” เพื่อนสนิทต่างสัญชาติยิ้มให้อย่างน่ารักก่อนที่ร่างเล็กๆจะใช้แขนตัวเองกอดคอเพื่อนที่สูงกว่าไปด้วยกัน ภายในห้องลู่หานเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนเหม่อๆพอคิดเรื่องของคนที่พึ่งแยกกันก็พาลให้คิดเรื่องก่อนหน้าที่ไม่เกิดเรื่องขึ้น ลู่หานชอบพี่เซฮุน..แต่ไม่ใช่โอเซฮุนในตอนนี้

“ เสี่ยวลู่..”

“ อะ..ห๊ะ..ว่าไง..”

“ นี่..เหม่ออะไรล่ะ..” คยองซูยังทำหน้าเหมือนคาดคั้นแล้วเอาหนังสือเล่มใหญ่ขึ้นมาตั้งแล้วก้มหน้าหลบอยู่เพื่อไม่ให้อาจารย์เห็นแต่คงไม่รู้ว่านั่นน่ะเป็นการบอกพิรุธอย่างชัดเจน 

“ คยองซูเอาหนังสือลง..”

“ ทำไม..” คิ้วเรียวขมวดยุ่งเมื่อมือบางของลู่หานดันมันลง

“ อาจารย์มองน่ะซิ..อยากโดนไล่ออกไปเหรอ..” 

“ งั้นก็บอกมาซิว่าคิดอะไรอยู่...มีเพื่อนเอาไว้ทำอะไรล่ะ..” โดคยองซูท้าวคางแล้วมองตรงไปยังอาจารย์หน้าห้อง ทำราวกับฟังแต่ก็เปล่าเลย เขากำลังคุยกับลู่หานอย่างตั้งใจ

“ เฮ้อออ..ไม่มีอะไรหรอก..”


“ อกหัก..ทะเลาะกับแม่ หรือว่าไม่มีตังค์ เห้อถ้าเรื่องที่สามนะฉันช่วยไม่ได้ว่ะเพราะตอนนี้ก็แบบงวดชนงวด ฮิๆๆ..” คยองซูหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ลู่หานหัวเราะเบาๆ

“ คยองซูอ่ะ..น่ารักนะ..”

“ หือ..ไม่เอาได้มั้ย..ฉันออกจะแมนเต็มร้อย ฮ่าๆๆ...” 

“ อืม..พ่อคนแมนตอนนี้มีจีบใครอยู่เหรอ..”

“ ก็เด็กคณะอักษร..น้องเจินเจิน..มั้ยวะ..เออๆน่าจะใช่แหละเธอชื่อเจินเจิน..” คยองซูขมวดคิ้วเมื่อนึกชื่อน้องที่ไปจีบไม่ได้เลยสุ่มมั่วไป 

“ จะจีบเขาแต่จำชื่อไม่ได้นี่..ไหวป่ะ..”

“ โถ่..ก็อะไรล่ะ มันช่วยไม่ได้นี่น่าชื่อมันจำยากอีกอย่างนะอีกอย่าง..ก็น้องเขาบอกไม่ชัดนี่หว่า..” 

“ ฉันว่านายอ่ะฟังไม่ชัด..จะไปโทษน้องเขาทำไม..” 


“ ฮิๆ..แล้วตกลงบอกได้รึยังว่าเป็นอะไร..คิดอะไรอยู่เครียดๆก็บอกมาเถอะ..” 

“ คยองซู..เคยมีคนที่ชอบจริงๆรึเปล่า..”

“ เยอะแยะน่า..”

“ ไม่ใช่..ต้องเป็นคนที่ชอบน่ะ ไม่ใช่แค่ชอบไปวันๆแต่เป็นคนที่เราคิดว่าต้องเป็นคนนั้นจริงๆ..” 

“ ........ “

“ ขอโทษ...”

“ คิดว่าคงไม่...ถ้าต้องชอบจริงๆฉันก็คงยังไม่มีหรอก..” คยองซูยิ้มบางๆ เขาก็แค่ผู้ชายทั่วไปที่ไม่ได้มีอะไรน่าดึงดูด แถมยังเตี้ยไม่ได้มาตรฐานเพอร์เฟ็คยิ่งคิดเรื่องแบบนี้แล้วรู้สึกว่าชาตินี้กูจะมีเมียมั้ย..เห้ออ

“ ........... “

“ ทำไม..มีแฟนเหรอ..”

“ เปล่าๆ...”

“ วันนี้เห็นมีรถคันหรูมาส่งเลยนิ..รู้มั้ยพวกผู้หญิงมันเม้าส์แหลกเลยล่ะ เชอะๆพวกขี้อิจฉา..ตัวเองไม่ได้แบบนี้ล่ะซิ..”

“ ไม่ใช่แฟน..คนรู้จักเท่านั้นเอง..”

“ หืมม...”

“...........”

“ เอาเถอะๆ...ไม่อยากพูดตอนนี้ก็ไม่เป็นไรหรอก..งั้นเย็นนี้ไปกินหมูกระทะกันป่าว..”

“ ได้ๆ...ฮ่าๆๆ...” 

หลังเลิกเรียนเพื่อนรักไซค์เล็ก?ต่างเดินออกมาจากตึกคยองซูบอกให้ลู่หานรออยู่หน้าคณะส่วนตัวเองก็ไปปั่นจักรยานคู่ใจมาหาเพื่อน

“ นี่ขึ้นมาเลยยย..”  คยองซูกวักมือเรียกด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า เสี่ยวลู่หานคงวิ่งเข้าใส่ถ้าตอนนี้สะโพกเขาไม่เจ็บนะแล้วจะไปซ้อนท้ายจักรยานคยองซูคงไม่ไหวอ่ะ

“ เอ่อ..คือ...”

ปี๊นๆ...

เสียงแตรรถดังขึ้นคยองซูและลู่หานหันไปมองตามๆกัน เฟอร์รารี่คนเดียวกับเมื่อเช้าเข้ามาจอด คยองซูตาโตเมื่อเห็นผู้ชายรูปหล่อเห็นแล้วหมั่นไส้ลงมาจากรถ มือหนาถอดแว่นตาสีดำของซุปเปอร์แล้วยกยิ้มให้เด็กเรียนท่าทางเรียบๆอย่างเสี่ยวลู่หาน คยองซูรีบปล่อยจักรยานลูกรักแล้วเดินมาขวางตรงหน้าเพื่อนก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะเข้ามาใกล้

  ตรงเวลาดีมั้ยล่ะ...” เซฮุนพูดแต่ก็ยังเหลือบมองคยองซูด้วยท่าทางขำขัน ท่าทางจะหวงเพื่อนจังนะ..

“ คนรู้จักเหรอเสี่ยวลู่..” คยองซูหันไปถาม

“..........”

“ นี่เพื่อนเหรอ...น่ารักดีนะ..”

“ เดี๋ยวครับ..ผมเป็นผู้ชายจะมาบอกว่าน่ารักกันมันเสียมารยาทนะครับ..”

“ หึๆๆ....” 

“ คุณเป็นคนที่มาส่งเพื่อนผมเมื่อเช้าใช่รึเปล่า “

“ ฮ่ะๆๆ..ใช่ครับ..ผมโอเซฮุนเป็นผู้ปกครองของลู่หานน่ะ..”

“ อ้อ..ผู้ปกครองนี่เอง..แหะๆๆ..ขอโทษนะครับ “

“ นี่คยองซูครับ..” อยู่ๆลู่หานก็บอกไป 

“ นักเรียนแลกเปลี่ยนเหรอ..แต่พูดจีนชัดเจนเลยนะ..”

“ ไม่ใช่..ผมมาอยู่กับแม่ต่างหาก “

“ เหรอ...”

“ ไปกันเถอะคยองซู..” ลู่หานคว้าข้อมือของเพื่อนตัวเล็กที่ขมวดคิ้ว แต่คงชะงักที่เซฮุนก็เร็วจนคยองซูยังตาโต ร่างบางถูกโอบเอวแล้วดึงรั้งให้เซเข้ามาในอ้อมแขน

“ อย่า..ทำให้หงุดหงิดนะครับ..” คำพูดกระซิบข้างหูก่อนที่เซฮุนจะหันไปยิ้มให้คยองซูที่มองมา

“ ........ “

“ คยองซูพี่คงต้องพาเสี่ยวลู่กลับก่อนนะครับ..วันนี้เขาไม่ค่อยสบาย “ 

“ อ่า..ดะ..ได้ครับ..แหะๆๆไม่มีปัญหาครับผม..” คยองซูยิ้มให้แต่เหมือนเสี่ยวลู่จะไม่ค่อยมีความสุขที่ถูกลากไปที่รถแม้แต่น้อย คยองซูยืนงงอยู่ที่เดิมยิ่งเห็นเสี่ยวลู่ส่งสายตาอ้อนวอนมาให้แต่คงช้าแล้วล่ะเพราะเพื่อนลูกจับยัดเข้าไปในตัวรถเรียบร้อยแล้ว

ตากลมโตมองเฟอร์รารี่ขับออกไปอย่างเร็วเเล้วตัวเองก็ยืนเกาหัวด้วยความไม่เข้าใจร่างเล็กเดินไปยกจักรยานคู่ใจขึ้นคร่อมแล้วปั่นเพื่อกลับหอพักใกล้ๆ เสียงหวานฮัมเพลงไปตลอดทางมีส่งยิ้มให้สาวๆบ้างอย่างน้อยชีวิตจะได้มีสีสัน ฮ่าๆๆ

ปี๊นๆๆๆๆ 

เอี๊ยดด

“ อ๊ากกกกกกกกกก....” 

โครม!!... 

“ ฮึกก..เจ็บบ...” ร่างเล็กล้มลงเมื่อถูกรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงเฉียดแล้วทำให้คนที่ปั่นจักรยานมาถูกทางล้มลง คยองซูกัดปากแล้วพยุงตัวขึ้นจากที่ถูกรถทับ ข้อศอกขาวเปื้อนเลือดก่อนที่จะได้ยินเสียงเหมือนคนลงมาจากรถ

“ ขี่รถยังไงวะ!..รถกูเป็นรอยเลยเห็นมั้ย!!..” เสียงทุ้มดังตะคอกเมื่อลงมาดูสภาพรถตัวเอง ดวงตากลมโตตวัดไปมองด้วยความโกรธก่อนจะเดินไปผลักอีกคนที่ไม่มีแม้แต่น้ำใจแถมนิสัยยังใช้ไม่ได้

“ นายนั่นแหละขับรถยังไงห๊ะ!!...” เสียงหวานตวาดกร้าวยิ่งกว่าเสียงปกติ คยองซูไม่เคยโมโหอารมณ์ร้ายแต่ถ้าโมโหก็ไม่ยอมใครเหมือนกัน

“ อะไร..ก็ใครมันใช้ให้มึงมาขวางกูล่ะ..”

“ อ้อ..นี่ขึ้นกูมึงเหรอวะ...” 

“ จงอินคะ..เป็นอะไรมากรึเปล่า..” ร่างบางของหญิงสาวที่อยู่ในรถด้วยลงมาดู คยองซูไม่ได้สนใจจะหันไปมองเธอด้วยซ้ำแต่เขาต้องเอาเรื่องไอ้บ้านี่

“ ไม่มีอะไร..ก็แค่ไอ้เด็กบ้า..”

“ นี่..ว่าใครบ้า..”

“ อย่ายั่วโมโหนะ..มึงจะเอายังไงรับผิดชอบมา..”

“ เหอะๆๆ..ใครบอกจะรับผิดชอบห๊ะกูไม่ผิด กูปั่นจักรยานถูกตามกฎหมายทุกอย่างมีแต่มึงนั่นแหละที่ขับมาชนกูก่อน ถามจริงมึงจับไมล์มั้ยวะ ตอนมึงไปสอบใบขับขี่เขาไม่สอนรึไงวะ!..อ๊ะ!..” คยองซูชะงักเมื่ออยู่ๆก็ถูกกระชากคอเสื้อ

“ ไปโรงพักกับกูเดี๋ยวนี้!..”

“ กูไปแน่ไอ้สลัด!!...” มือบางผลักคนตัวสูงแต่นิสัยทุเรศออกไปจากตัวเหมือนรังเกียจ คนที่ชื่อจงอินหยิบเอาโทรศัพท์ออกมาโทรหาใครซักคน ส่วนคยองซูเดินไปดูสภาพรถตัวเองน้ำตาแทบคลอพอเห็นสภาพ แงๆๆ ฟิกเกียร์พังอ่ะ..แล้วเขาจะปั่นมาเรียนได้ไง เขาไม่ได้สนใจแผลที่มีเลือดไหลแต่จะร้องไห้กับจักรยานเนี่ยแหละ

“ กูจะให้ประกันมาเคลีย์..มึงตายแน่..” จงอินพูดขึ้นอย่างอาฆาต เขาขี้หน้าคาดโทษแต่คนอย่างโดคยองซูถ้าของขึ้นแล้วก็ไม่ยอมทั้งนั้นแหละเว้ย

“ คิดว่ากลัวเหรอวะ..รถมึงแค่ถลอก โถ่ไอ้ปัญญาอ่อนเอาเข้าอู่แป็บเดียวก็เสร็จ แต่รถกูพังมึงต้องรับผิดชอบ!..” 

“ มึงรู้มั้ยว่ารถกูมันแพงกว่าไอ้รถขยะของมึงเป็นสิบเท่าเถอะ!!...” จงอินเดินพรวดพราดเข้าไปเอาเรื่องคู่กรณี

“ มึงว่าไงนะ!!..” ไม่ทันที่คยองซูจะวาดหมัดใส่ปากหมาๆของไอ้คนปากดีซักที ดูเหมือนประกันของรถคันหรูที่แค่ถลอกก็มาถึง คยองซูกอดอกเมินหน้าหนีความเจ็บแล่นริ้วมาเป็นระยะเขาถึงได้รู้ว่าตัวเองมีแผล หลังจากเคลียกันไม่ลงเพราะต่างคนก็ไม่มีการยอมเรื่องเลยต้องถึงโรงพัก พอมาถึงก็นั่งเถียงกันไม่จบสุดท้ายคนที่ต้องยอมคือจงอินเพราะตัวเองขับรถมาเฉี่ยวคยองซูที่ปั่นมาถูกทางแล้วจริงๆ ร่างสูงเดินมาเปิดประตูรถที่แค่ถลอกนิดหน่อยแต่มันทำเขาหงุดหงิดแต่ก็ยังดีที่มีประกันชั้นหนึ่ง  ตาคมเหลือบมอร่างเล็กแต่ปากจัดเดินมาลูบๆคลำๆฟิกเกียร์ที่หมดสภาพ แล้วเดินลากรถด้วยสภาพคอตก..ขอแกล้งซักหน่อยเถอะ

“ เฮ้ย..ให้ไปส่งมั้ย..” เขาขับรถมาเทียบๆเคียงๆคนที่หันมาทำตาโหดใส่ รู้น่าว่าตาโตแต่ไม่ต้องแหกเยอะก็ได้

“ ไปให้พ้น...”

“ อะไรวะ..คนอุตส่ามีน้ำใจ..”

“ อ้อเหรอ..แล้วไอ้บ้าตัวไหนที่เถียงคอขึ้นเอ็นวะครับ..ไอ้ตอแหล..”

“ โอ้โห..แรงนะเว้ย เคลียร์กันซักทีดีมั้ยไอ้เตี้ย..” จงอินพูดเหมือนโมโห

“ เออ..ลงมา!..” เสียงหวานดังกร้าวและจงอินก็บ้าพอที่จะจอดรถแล้วเปิดประตูลงมา เขากระชากร่างของคยองซูอย่างแรงจนอีกคนเซปล่อยจักรยานสุดที่รักลงพื้น

“ อะ..โอ้ยย..” 

“ เฮ้ย..มึงเลือดออก..” จงอินเหมือนตกใจรีบปล่อยคยองซูที่ร้องออกมา มือเขามีเลือดเล็กน้อยเลยเลื่อนสายตาลงไปสำรวจร่างบางทันที 

“ เออ!..เลือดกูออกจนแห้งแล้วเหอะไอ้บ้า..เพราะมึงเลย!..” คยองซูผลักอีกฝ่ายออกแล้วเดินไปยกจักรยานตัวเอง เขาทำหน้าเซ็งๆใส่คู่กรณีอีกรอบแล้วพาฟิกเกียร์สุดที่รักไปหาอู่..แงๆๆๆ...

“ เฮ้ย..ซ่อมเสร็จก็โทรหานะเว้ย..”

“ เออ..มึงนั่นแหละรับผิดชอบ...” คนที่เดินผ่านไปแล้วยังหันมาตะโกนตอกย้ำให้รู้อีกครั้งว่า..มึงต้องรับผิดชอบลูกรักกูครับ    จงอินทำเสียงเหอะขาเรียวยาวเดินกลับไปเปิดประตูรถแล้วบึ่งมันออกไปโดยไม่สนใจใครที่ยังบ่นด่าสารพัด   คยองซูกลับมาหอแล้วเดินขึ้นไปทำแผลอย่างอนาจจิตเป็นที่สุด เจ็บอ่ะ..เจ็บมากด้วย แต่เรียนแพทย์ก็ต้องเจอเลือดเป็นธรรมดาไม่งั้นไม่รู้จะเอ็นมาเพื่ออะไร 

Rrrrrr Rrrrrrrrr เสียงโทรศัพท์ดังขัดจังหวะ ตากลมเหลือบไปมองโทรศัพท์มือถือที่อยู่ไม่ไกลเขาเลยไถลตัวแล้วหยิบมันมากดรับ

“ ฮัลโหล...”


( โย่วไอ้เหลือก..แดกข้าวยังค๊าบบ ฮ่าๆๆๆๆ...” 

  ไอ้สลักผัก.!!

( โถ่เหลือกน้อยของกูอารมณ์เสียเหรอ...เป็นไรวะมึง..) เพื่อนสนิทหัวเราะคลอตลอดเวลาที่ได้แกล้ง คยองซูชักสีหน้าเซ็งๆเต่ก็ยังคุยโทรศัพท์กับมันได้

“ มึง..โทรทางไกลมันแพง..”

( เออ..กูคิดถึงมึง ฮ่าๆๆ..ไม่เป็นไรค่าโทรพ่อกูจ่าย..)

“ ลูกทรพี..”

( เออน่าคยองซู..มึงก็ซีเรียสว่ะ แล้วตกลงโมโหไรวะ..)

มึง..แม่งกูนะ$&*#@*(_(&%#&^*^$$#&*())(_)*^%%#@@$^&*)*&%#@&^&^****%#$@ แล้วรถกูก็พังเลยอ่ะ..เจ็บใจสุดๆเลย..” คยองซูเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เพื่อนรักต่างแดนฟังด้วยความแค้นสุดๆ

( เออ..มึงน่าจะชกมันไปซักหมัด..)

“ ฮึ่ย!..แค้นมากกก!!...”

( น้อยๆหน่อย..แล้วเจ็บมากมั้ยวะ..)

“ นิดหน่อยก็ทำแผลอยู่..กูแค้นจนหายเจ็บมึงคิดดูนะ เหอะ..ดีที่กูไม่ยอมนะไม่งั้นต้องเสียค่าซ่อมรถให้มันแน่ๆว่ะ มึงก็รู้กูถังแตกอยู่..” 

( กูว่าเขาปากหมาไม่เท่ามึงมากกว่ามั้งคยองซู..ฮ่าๆๆ..)

“ เดี๋ยวกูโบก..เออ..แล้วน้องกูเป็นไงบ้างวะ..” 

( แบคฮยอนเหรอ..ไม่นี่ปกติ..)

“ อืมๆๆ...มึงก็ดูแลให้หน่อยล่ะกัน มันไม่ค่อยประสีประสายิ่งมันน่ารักๆน่าพาไปปล้ำอยู่ด้วยกูเป็นห่วงมันว่ะ..” คยองซูถอนหายใจเบาๆเมื่อพูดถึงน้องชายที่อยู่เกาหลี เขาได้ทุนมาเรียนฮ่องกงแต่ประเด็นคือเขาอยากมาหาแม่บ้างก็เท่านั้นเอง พ่อเลยยอมอนุญาตแต่ต้องมีข้อแม้คือต้องกลับบ้านทุกซัมเมอร์

( ไม่ต้องห่วง..แบคฮยอนก็เหมือนน้องกูแหละ..)

“ เออ...”

( แล้วนี่มึงจะกลับเกาหลีมั้ยตอนซัมเมอร์เนี่ย..ติดเรียนอีกมั้ยวะ..)

“ กลับๆ..”

( เออ..กลับก็ดี กูมีเพื่อนจะให้มึงรู้จักด้วย หึๆๆ กูรู้มึงยังไม่มีแฟนล่ะซิ..)

“ หยาบคาย..กูมีกิ๊กครับ..เยอะด้วย ฮ่ะๆๆ..แต่มึงจะแนะนำใครให้วะสวยป่าวว..” คยองซูหัวเราะร่าออกมาทันที

( อืมมม..ไม่รู้ซินะ หึๆๆ..เพื่อนกูเองมันอยู่ฮ่องกงเหมือนกันแต่คงจะกลับมาช่วงซัมเมอร์เหมือนมึงแหละ )

“ จริงเหรอ..เออๆ..ขอสวยๆนะเว้ย..”

( เลือกมากนะมึง..กูจัดให้นี่เยอะแล้วเหอะ )

“ โถ่พี่ยอลค๊าบบบ..เดี๋ยวซื้อของไปฝากนะพี่ยอลนะ.



..ขอสวยๆให้คยองชื่นใจหน่อยจะเหี่ยวเฉาตายแล้วว่ะ..” 

( ฮ่ะๆๆ..ไอ้เหลือกมึงนี่เข้าใจเล่นนะ..ทำกูขนลุกเลยไอ้บ้า..)

“ ไอ้ชานยอล..ปากมึงนี่ใส่ฟลอมารีนล้างบ้างนะกูเซ็ง..” 

( แหม..ถึงปากกูจะแบบนี้แต่หญิงตรึมครับ ฮ่าๆๆ ) 

“ เออ..ระวังเป็นเอดส์ตาย..”

( ปากเสียครับ..เดี๋ยวให้น้องหมาข้างบ้านจูบเลย..อ่ะกูว่าให้ไอ้กัมจงมันขยี้ปากมึงซักทีนี่คงหายหมาไปซักพักแหละวะ..ฮ่าๆๆๆ...)

“ เดี๋ยวๆ..อะไรๆ..ใครคือกัมจงวะ คนบ้าอะไรชื่อพิลึก..”

( หึๆๆ..เดี๋ยวรู้ครับเดี๋ยวรู้..แค่นี้นะเว้ยเหลือก เปลืองมากขอบอก..กูต้องประหยัดพลังงานชาติซึ่งพ่อกูคงต้องจ่าย ฮ่าๆๆๆ...ไปนะจ๊ะจุ๊บๆๆ..ตี๊ด..)

“ จุ๊บพ่องมึงดิ ไอ้ชานยอล ไอ้โย่ง ไอ้สัปเหร่อ..ไอ้เส็งเคล็ง..โอ้ยย เซ็งว่ะ!!..” คยองซูนั่งด่าเพื่อนที่ชิงวางสายไปก่อนแล้วเดินไปเปิดทีวีดูหนังแก้หงุดหงิด ฮึ่ยๆๆ..มือบางทึ่งผมตัวเองแรงๆอย่างโมโหไม่หาย 



ชานยอลหัวเราะขำขันเมื่อวางโทรศัพท์จากเพื่อนแล้วกระโดดขึ้นรถเตรียมตัวท่องราตรีซักที..เสียงโทรศัพท์ดังเข้ามาเหมือนเพื่อนโทรมาตาม ชานยอลก็ต้องรีบซิ่งไปให้ถึงเร็วๆจะได้ไม่ต้องโดนมันสับโขก

“ ไอ้โย่งง มึงแม่งช้าโคตรๆเลย..” เพื่อนในกลุ่มมันคงปากคันยิกๆอยากด่าล่ะมั้ง

“ กูยุ่ง...”

“ อ้อ..ยุ่งไรวะ..กูเห็นมึงนั่งนอนอย่างเดียว..”

“ ก็ยุ่งที่นั่งนอนเนี่ยเหละไอ้พวกสาสสส..” 

“ ไอ้คุณชาย!!!...” พวกเพื่อนมันหาเรื่องพร้อมใจกันตะโกนใส่เขาท่ามกลางเสียงเพลงดังกระหึ่ม มือหนารับแก้วเหล้าที่เพื่อนชงให้มาจิบบ้างโยกตัวตามเพลงบ้างแต่ก็นั่นแหละส่วนมากจะใช้สายตามองสาวๆซักคนที่มันไม่มีเจ้าของ แล้วก็เจอเป้าหมาย อาฮะ... ชานยอลกระดกแก้วเหล้าที่ถือหนึ่งทีแล้วเดินเข้าไปหาคุณเธอที่โยกสะโพกอยู่กลางฟลอสายตาไม่ต้องพูดถึงหรอกยั่วแล้วล่ะแบบนี้ต้องพาไปจัดเต็มซักที หึๆๆ  ร่างสูงเข้าไปซ้อนหลังมือหนาบีบสะโพกเต็มมืออย่างเมามันในขณะที่เต้นคลอเคลียร์กันไป คนสวยในอ้อมแขนหันมาโอบรอบคอแกร่งแล้วทำการยั่วให้ชายหนุ่มตะบะแตก แต่เขาคงตะบะแตกแน่ถ้าสายตาไม่เหลือบไปเห็นร่างบางอีกคนที่เหมือนถูกเมาเหล้าอยู่ที่โต๊ะ ชานยอลเบิกตากว้างหลังจากผลักหญิงสาวออกอย่างเเรงแล้วเดินดุ่มๆเข้าไปที่โต๊ะนั้นด้วยความโมโห 

หมับ!...

“ เอามือออกไปไอ้สัส..” ชานยอลกระชากคอเสื้อของอีกฝ่ายขึ้นพร้อมกับสวนหมัดหนักๆใส่มันอีกหนึ่งที 

“ ตายห่า พี่ชานยอล!!..” พวกเด็กในกลุ่มวงแตกทันทีเมื่อเพื่อนถูกชกแถมไอ้คนที่ตามลงไปขึ้นคร่อมแล้วอัดหมัดใส่นี่ก็รุ่นพี่ในมหาลัย 

“ มึงคิดจะทำอะไรคนของกูห๊ะไอ้สารเลว!..” ชานยอลจับหัวมันโขกพื้นอีกทีนึงให้หายโมโหทั้งที่ไอ้คนที่นอนร้องโอดโอยไม่ต้องสงสัย ร่างสูงลุกขึ้นพร้อมกับถ่มน้ำลายใส่ตาคมเหลือบมามองคนอื่นในกลุ่มที่ยืนนิ่งไม่กล้าขยับ

“ พวกมึงจำเอาไว้นะ..อย่ามาแตะต้องพยอนแบคฮยอน เด็กนี่เป็นของกู ถ้ายังไม่เชื่อมึงลองดูอีกที..กูจะให้พวกมึงแดกน้ำข้าวต้ม!..” เสียงกร้าวดังลั่นก่อนที่ชานยอลจะเดินดุ่มๆมากระชากแบคฮยอนที่ไม่เหลือสติแล้ว ร่างบางเซเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนยิ่งเมื่อรู้สึกถึงความอุ่นของร่างกายแบคฮยอนยิ่งเบียดตัวเข้าหา

“ ฮึกก..ระ..ร้อนน..” เสียงหวานพึมพำในลำคอ ชานยอลพยุงตัวน้องชายเพื่อนออกไปจากผับด้วยท่าทางหัวเสียเขาปลดล็อกรถแล้วเปิดประตูดันให้เด็กน้อยเข้าไปนั่ง 

“ แบค..ได้ยินพี่มั้ย..” 

“ อื้ออ...” 

“ ห่าเว้ยไอ้พวกเวร..สัส จะไปกระทืบอีกทีทันมั้ยวะ..” คนตัวสูงได้แต่สถบด่า เขาเดินไปเปิดประตูรถแล้วขับออกไปเพื่อพาแบคฮยอนไปส่งบ้าน ร่างบางข้างๆครางอื้ออึงอยู่ในลำคอเหมือนทรมานอะไรซักอย่างตาคมเหลือบมองเป็นระยะๆด้วยความเป็นห่วง

“ ทำไมถึงกล้ามากับไอ้พวกเด็กนรกนั่นห๊ะแบคฮยอน..” เสียงทุ้มสถบไปมา 

“ ร้อนน..มะ..มันร้อน ..”

“ แบคฮยอน..อย่าถอดนะเว้ย..” เสียงทุ้มร้องลั่นเมื่อเห็นมือบางแทบจะกระชากเสื้อตัวเองออก 

“ ฮึกก..มะ..ไม่ไหวแล้ว..ฮึกก...” ร่างบางร้องไห้ออกมาเมื่อร่างกายปล่อยเหงื่ออกมาเต็มกาย ขนาดชานยอลเร่งแอร์รถให้เย็นฉ่ำแล้ว ใบหน้าหวานแดงซ่านแถมยังหอบหายใจร่างบางเอนตัวเข้ามาชานยอลทันที

“ แบคฮยอนหยุด..พี่ขับรถอยู่ได้ยินมั้ย..”

“ พี่ฮะ..ฮืออ..แบคร้อน ..” เสียงหวานๆเหมือนออดอ้อนแต่เปล่า อีกฝ่ายกำลังร้องไห้มือบางลูบไล้ไปบนแผ่นอกถ้าเกี่ยวคอให้ร่างสูงหันมาได้ล่ะก็ไม่มีทางรอดแน่ๆ

“ โดนยาใช่มั้ยห๊ะ...ไอ้พวรเวรมึงนะมึง..” คนขับรถที่ถูกลวนลามขบกรามแน่นแล้วต้องหักรถไปอีกทางที่ไม่ใช่บ้านของเด็กคนนี้ จะส่งให้ผู้ปกครองทั้งที่แบคฮยอนมีสภาพแบบนี้มีหวังเขาโดนพี่มันเล่นแน่  รถถูกจอดใต้คอนโดหรูที่ชานยอลชอบมาอยู่ช่วงเรียนหนักๆเขาพยุงตัวแบคฮยอนที่ตัวอ่อนไร้เรี่ยวแรงก่อนจะพาเข้าไปข้างใน ห้องน้ำเป็นที่แรกที่ชานยอลเปิดเข้าไปหลังจากที่มาถึงห้อง เขาอุ้มร่างบางของแบคฮยอนที่ร้องไห้เพราะความทรมาน

“ ใจเย็นนะ..เดี๋ยวก็หายนะครับเด็กดี..” ชานยอลเปิดน้ำในอ่างอาบน้ำแล้วคว้าเอาฝักบัวมารดใส่ตัวให้คลายความร้อนรุ่มในกาย เขารู้ทางเดียวคือการเอาออกแต่รู้อะไรมั้ย..เขาไม่กล้าพอจะสัมผัสเด็กคนนี้มากเกินไปถ้าไม่จำเป็น

“ ฮืออ..พี่ฮะ..ฮึก..อึดอัดมากเลย ฮืออ...” ร่างบางกอดตัวเองสั่นเงอะงะอยู่ในอ่างอาบน้ำ 

“ ไม่ร้องนะ..เดี๋ยวก็หายนะ..” 

“ ช่วยด้วย..ฮืออ...” แบคฮยอนร้องไห้อย่างน่าสงสาร จนชานยอลต้องยกมือขึ้นขยี้หัว ในหัวมีแต่คำว่าน้องไอ้เหลือก น้องไอ้เหลือก 

“ เออ..ตายเป็นตายเว้ย!..” ชานยอลกัดฟันพูดพร้อมกับกระชากตัวแบคฮยอนจากอ่างอาบน้ำทันทีเมื่อตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว ร่างบางเบิกตากว้างเมื่อริมฝีปากอุ่นร้อนเบียดลงมาอย่างรุนแรงเร่าร้อน ชานยอลดันให้ร่างเล็กๆของแบคฮยอนชนผนังห้องน้ำเย็นเฉียบใต้ฝักบัว เขาลูบไล้ไปทั้งตัวและเด็กในอ้อมแขนก็ยังกอดรัดร่างเขาเหมือนเชิญชวนจนไม่เหลือสติควบคุม 

มือหนาบีบลงบนร่างกายที่เล็กกว่าอย่างรุนแรงเมื่อตัวเองไม่เหลือความรู้สึกยั้งคิด ผู้ชายทุกคนมีความรู้สึกแล้วเกิดอารมณ์ได้ง่ายๆ แบคฮยอนเหมือนของต้องห้ามที่เขาไม่เคยคิดจะแตะต้องแต่พอเจอเข้าจริงๆมันเหมือนยาพิษดีๆนี่เอง ของหวานน่ากินแต่ถ้ากินเขาต้องตาย..


“ อื้มม...อื้ออ...” เสียงครางหวานๆดังออกมาจากลำคอ ร่างบางเบียดร่างกายร้อนรุ่มเข้าหาร่างกายแข็งแรงแต่ก็ร้อนเหมือนไฟไม่แพ้กัน มันคือไฟปรารถนา..ที่ปาร์คชานยอลเป็นคนจุดมันขึ้นมา มือหนาเลื่อนขึ้นมาขยุ้มผมนุ่มพร้อมกับเบียดปากและลิ้นชื้นแฉะเข้าไปในโพรงปากร้อน

“ อืออ...”

น้องไอ้เหลือก...

ถึงเป็นน้องเพื่อน..แต่เขาเองนี่แหละที่ไม่ไหวอีกแล้ว..อย่ามาโทษพี่นะแบคฮยอน..

“ อ่ะ..ชานยอล..อื้ออ...” แบคฮยอนร้องออกมาด้วยความรู้สึกเสียววาบไม่เคยเจอ จมูกโด่งเป็นสันซุกไซ้ไปตามลำคอชานยอลเบียดตัวพร้อมกับดูดคอขาวเหมือนมันเป็นอะไรซักอย่างที่น่ากิน เขาเร่งปลดเสื้อของอีกฝ่ายทันทียังไงตอนนี้เขาก็คงไม่หยุดแล้ว มันหยุดไม่ได้หรอก..ต่อให้เป็นอะไรซักอย่างที่ต้องตาย เขาก็คงไม่สน ถ้าต้องถูกเพื่อนฆ่าเขาก็ไม่สนแล้วล่ะ..พยอนแบคฮยอนหอมหวานเกินไป

ใบหน้าหวานแดงซ่าน ปิดเปลือกตาที่แสนปรือปรอยไม่อยากให้รู้ว่าตัวเขาเนี่ยแหละที่หลงใหล มือบางบีบไหล่หนาแน่นรั้งร่างกายที่แทบทรุด แขนแกร่งโอบรอบเอวบางแล้วพวกเขาก็จูบกัน

“ อึก..อ๊ะ..”

“ แบคฮยอน..” เสียงทุ้มกระซิบเสียงแหบพร่า ฉกฉวยริมฝีปากที่เริ่มบวมแดงบดขยี้แบคฮยอนอ้าปากออกอย่างกล้าๆกลัวรอรับลิ้นร้อนของอีกคนที่สอดเข้ามาเกี่ยวกับลิ้นอุ่นๆ มันตวัดรัดรึงชานยอลกดหัวของแบคฮยอนเอาไว้ไม่ให้เบือนหนีในตอนที่เขาใช้เทคนิคดูดลิ้นให้คนตรงหน้าเคลิ้ม เสียงดึงดูดริมฝีปากดังก้องในห้องน้ำ เพียงไม่นานที่ถูกทำให้เคลิ้มร่างสูงขยับอุ้มแบคฮยอนขึ้นในอ้อมแขนแล้วพาออกมาจากห้องน้ำที่เปียกชื้น เขาวางร่างน้องชายที่ตัวสั่นน่ารักแล้วขึ้นคร่อม มือหนาถอดเสื้อตัวเองออกให้คนตัวเล็กตาค้าง..แล้วจัดการดึงเสื้อผ้าของแบคฮยอนที่เปียกแฉะออกไป ร่างกายขาวเนียนยิ่งยั่วกิเลสของไอ้ปาร์คคนนี้ชิบหาย เขาถอดเสื้อผ้าของแบคฮยอนออกหมด

“ ถ้าเจ็บ..บอกนะครับเด็กดี..”

“ อื้อ...” เด็กดีที่ว่าพยักหน้าอย่างเขินอาย..นี่ตกลงแบคฮยอนมันโดนยาหรือกูโดนเองวะ..ความรู้สึกเขามันเหมือนสับสนแต่พอแขนเรียวคว้าต้นคอให้เขาลงไปจูบกับตัวเองนั่นแหละสติเลยมา มือหนาลูบไล้ไปทั่วร่างจับขาเรียวอ้ากว้างแล้วตัวเองก็เป็นคนเบียดแทรกเข้าไปตรงกลาง 

“ อึก..อื้ออ..” เสียงร้องของแบคฮยอนดังออกมาเมื่อมือหนาบีบลงบนแกนเนื้อที่มีอารมณ์ ชานยอลดูดปากแรงๆแล้วก้มลงไซ้ซอกคอ มืออีกข้างบีบลงอกเเบนราบอย่างมันส์มือลืมไปว่าไม่ใช่ของผู้หญิงแต่แบคฮยอนก็ยังเอนอกเข้าหา 

“ อ๊ะ..ชานยอล..”

“ ยั่วพี่รึเปล่าห๊ะ..”

“ อึก..รีบๆ..กินผมซิฮะ..นะ..” มือบางลูบแก้มสาก สายตาที่มองมามันไม่ใช่แค่ยั่วยวนแต่มันมีอีกอย่างที่แฝงอยู่ซึ่งเขาไม่เก่งพอที่จะรู้  ชานยอลหัวเราะเบาๆก่อนจะจูบเบาๆบนริมฝีปากนิ่มยิ่งทำให้ร่างบางใต้ร่างเขิน  

“ อืม..” แบคฮยอนกัดปากแน่นเมื่อชานยอลก้มลงไปครอบครองยอดอกสีสด ใบหน้าหวานผงกหัวขึ้นมองมันยั่วยวน พี่ชานยอลของเขามีเสน่ห์จนห้ามใจไม่ได้ 

“ อ๊ะ..พี่ฮะ..” เสียงครางหวานๆดังกระตุ้น ปากหยักทั้งกัดทั้งดูดไปทั้งตัวมือหนาลูบไปมาบนหน้าท้องแบนราบของอีกฝ่ายก่อนจะเร่งขยับแกนเนื้อสีพีซที่เริ่มมีน้ำออกมาเปื้อนมือ แบคฮยอนบิดเร้ากรีดร้องเสียงดังยิ่งเมื่อเขาชักรูดให้ใกล้เสร็จ ลิ้นอุ่นเร่งหยอกล้อติ่งไตที่เป็นอีกจุดอ่อนที่เขาพึ่งค้นพบ..เด็กนี่จะตัวสั่นกระตุกเมื่อเขาลงลิ้นกับยอกอก 

“ อา..” เขาครางเบาๆเมื่อแบคฮยอนจับให้เขาขึ้นมารับจูบที่น่ากิน ปากหยักขยี้มันอย่างแรงไม่ออมมือ ก่อนจะปล่อยมือที่บีบบนแท่งเนื้อร้อนมาบีบไปทั้งตัวของพยอนแบคฮยอน 

“ อ๊า..พี่..ไม่ไหวแล้วนะ..อึก..เข้ามาเร็วๆได้มั้ย..อื้ออ..” 

“ หึๆ..เดี๋ยวเด็กดี..ไม่ต้องรีบนะครับ..” ชานยอลกระซิบเสียงพร่า เออ..กูเนี่ยแหละจะไม่ไหวไม่ต้องเร่งครับน้อง..พี่จัดให้แน่..แต่ขอดูดก่อนเถอะ

ชานยอลจับขาเรียวแยกกว้างแล้วก้มลงไปใช้ปากให้ตรงส่วนที่แข็งขืนใกล้ปลดปล่อยจนแบคฮยอนตัวสั่นไปหมด ตากลมโตเบิกกว้างยกมือขึ้นปิดริมฝีปากนอนแผ่อยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกเหมือนจะขาดใจ

“ อ่ะ..อ๊า...อึก..พ..พี่..อ๊ะ..อื้ออ...” เสียงหวานกระตุกพูดไม่เป็นภาษา เมื่อชานยอลใช้ลิ้นไล่เลียจนพอก่อนจะครอบครองมันด้วยริมฝีปาก

“ อืมม...” เสียงครางอือในลำคอของร่างสูงดังออกมาแผ่วเบา ปกติไม่เคยออรัลให้ใครแต่กับเด็กนี่มันอดไม่ได้ว่ะ ยังไงก็ต้องขอลองล่ะเว้ย 

“ ซี๊ดด..ยะ..อย่า..อื้ออ...” แบคฮยอนครางเหมือนจะขาดใจ ยิ่งเมื่อชานยอลขยับรูดปากขึ้นลงจับขาเรียวขึ้นมาพาดไหล่

“ อื้ออ..พี่ชานยอล พี่ชานยอล..อึก..แบค..เสียวฮะ..” เสียงหวานสั่นไปหมด มือบางขยุ้มลงบนผมหนาพยายามผลักออกไปแต่ชานยอลก็ดื้อไม่สนนอกจากใช้ปากรูดให้ ลิ้นอุ่นๆไล่เลียไปทั้งแท่งแม้กระทั่งดูดเม้มแรงๆบนส่วนปลายที่เริ่มมีน้ำออกมาเรื่อยๆ นั่นแหละเด็กนี่กำลังจะไปเขาถึงต้องจี้จุด

“ ซี๊ด อ๊า..อย่า..อื้ออ..ไม่ไหวแล้ว อึก..จะไป..อึก..พี่ฮะ..” แบคฮยอนร้องเสียงดังลั่นห้อง พยายามผลักหัวอีกฝ่ายออกไปแต่เหมือนอีกคนจะไม่ยอม เจอเข้าไปไม่กี่ทีแบคฮยอนก็ต้องกระตุกตัวเกร็งแรงๆเมื่อน้ำอุ่นทะลักออกจากส่วนปลายของอารมณ์ดิบ มันแตกเข้าปากของพี่ชานยอลโดยที่อีกฝ่ายไม่ยอมชักปากออก

“ อ่ะ..อ๊าาา...อื้ออ...” ร่างบางหอบเหนื่อยนอกตัวสั่นไร้เรี่ยวแรงเมื่อปลดปล่อยมันออกมา ชานยอลเก็บน้ำพวกนั้นเข้าปากอีกรอบก่อนจะขยับตัวขึ้นมาครอบครองริมฝีปากแดงเจ่อ แบคฮยอนจูบตอบและต้องตาเบิกกว้างพยายามผลักร่างหนาออกไป

“ อื้ออ...” น้ำคาวที่ว่าถูกดันมันเข้ามาในโพรงปาก ลิ้นร้อนๆเข้ามาเกี่ยวกับลิ้นเขาอย่างจาบจ้วงก่อนจะผละออกไป มือหนาเอื้อมไปหยิบถุงยางในลินชัก ใบหน้าหวานที่เริ่มมีอารมณ์แดงซ่านเมื่อเห็นชานยอลใช้ปากฉีกถุงยางแล้วเอามาใส่อย่างรวดเร็ว 

“ จุ๊บ..ป้องกันไว้ก่อนปลอดภัยทั้งคู่นะครับ..” เขาจุ๊บปากเด็กน้อยที่หน้าแดงไปหมดแล้วแสยะยิ้มให้ ขาเรียวถูกจับอ้าอีกรอบชานยอลกระชากสะโพกบางให้ขึ้นมาเกยบนหน้าขาแล้วก้มลงไปจูบแบคฮยอนอีกรอบ แต่คราวนี้ไม่ใช่แค่เอามือเล้าโลมทั่วไป เขาส่งนิ้วยาวๆเข้าไปเบิกทางที่ร่างสูงกำลังจะเข้าไปด้านใน แบคฮยอนกระตุกตัวแรงและร้องเหมือนเจ็บ ชานยอลไม่ได้สนใจอะไรมากมายนอกจากชักนิ้วเข้าออกแล้วใส่เพิ่มเข้าไปเรื่อยๆใส่จนช่องทางนั้นบีบรัดจนสุด 

“ เจ็บบบ...”

“ ใจเย็นแบคฮยอน..ไม่ขยายเธอจะเจ็บมากนะ “ ชานยอลพูดแล้วหยิบเจลหล่อลื่นมาทาบนแกนเนื้อแล้วค่อยๆสอดตัวเข้าไปในช่องทางด้านหลังที่บีบรัดแน่น

“ ซี๊ดด..อ่ะ..แบค..อย่า..รัดแบบนั้นครับคนดี..พี่เข้าไปได้นะ..”

“ อึก...เจ็บ..ฮืออ...” มือบางขยุ้มที่นอนเอาไว้ในกำมือ ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บร่างกายเขามันเกร็งกระตุกไปหมด มันเจ็บ..

“ อา..แบคฮยอน..อย่าเกร็ง..”

“ อื้ออ..พี่ชานยอลแบคเจ็บบบ...อ๊าาา...” ร่างบางกรีดร้องดังลั่นเมื่อชานยอลตัดสินใจจะดันมันเข้าไปทีเดียว ชานยอลหยุดนิ่งเพื่อให้แบคฮยอนหายปรับตัว มือบางทุบลงบนอกเขาแรงๆแล้วร้องไห้ด้วยความเจ็บแต่จะให้เขาเอามันออกตอนนี้เนี่ยนะ..ฝันไปเถอะ..

“ ฮืออ..ออกไป..มันเจ็บ..ฮืออ..”

“ แบคฮยอน..อย่าร้องครับ..เดี๋ยวพี่จะขยับนะ ไม่เจ็บนะเด็กดี..” ชานยอลพยายามพูดดีๆแล้วจูบเบาๆเพื่อให้เด็กน้อยหันมาสนใจอย่างอื่น แขนบางบีบลงบนไหล่เขาแน่นและชานยอลก็เริ่มขยับสะโพก 

“ อื้อ..เบาๆเนอะ..ไม่เจ็บใช่มั้ย..” ชานยอลพูดเสียงแหบพร่า ใจจริงคือกูอยากกระแทกแล้วนะ.. แบคฮยอนซบหน้าลงกับแผ่นอกกว้างแล้วกอดรัดร่างของชานยอลแน่น เสียงสะอื้นฮักยังคงอยู่แต่ก็ปล่อยให้ชานยอลขยับเข้าออกในช่องทางที่เขารู้สึกเจ็บเหมือนตาย..

“ อึก..อ่ะ...”

“ แบค..พี่จะขยับเร็วขึ้นโอเคนะ..พี่ไม่ไหวแล้วเข้าใจนะครับ..” ชานยอลจำต้องบอกให้คนรับรู้ตัวว่าตอนนี้เขาไม่ไหวแล้ว ถ้าเป็นคนอื่นเจ็บไปเถอะเขาไม่สน..

“ อื้ออ...” แบคฮยอนพยักหน้าเบาๆ 

“ เก่งมากเลย “ ชานยอลจูบเบาๆตรงหน้าผากเนียนยิ่งทำให้แบคฮยอนใจเต้นตึกตัก รู้สึกดีที่ให้ครั้งแรกกับคนที่ชอบแล้วเขาก็ให้ความสำคัญ ชานยอลก้มลงจูบปากอีกรอบพร้อมๆกับขยับสะโพกกระแทกกระทั่นในจังหวะที่บอกเลยไม่ใช่แค่ค่อยๆแต่เริ่มอยู่ในจังหวะที่ร่างกายโยกคลอน แบคฮยอนเบือนหน้าหนีแล้วยกมือขึ้นปิดปากแน่น

“ อ๊า..แบค..อื้ออ...” ชานยอลจูบแก้มเนียนแล้วเร่งสะโพกที่ถูกรัดจากผนังร้อนภายใน เสียงครางทุ้มต่ำดังราวกับมีความสุขในทุกๆการกระแทก แบคฮยอนเจ็บแต่มีความสุข..เขาเจ็บมากไม่ใช่ว่าอะไร..



แต่เพราะพี่ชานยอลมีความสุขต่างหากล่ะ

“ อ่ะ..พะ..พี่ชานยอล..อื้ออ..”           
                                                                                                  
“ ซี๊ดด อ่าา..แบคครับ..อื้มม..” ชานยอลกดปากลงไปบดขยี้อย่างรุนแรง ทั้งเกี่ยวลิ้นทั้งดูดมันจนเจ็บเขาซี๊ดปากแล้วแสดงสีหน้าเหมือนสุดยอดมากออกมา ยิ่งในตอนที่โดนกระแทกจนร่างกายกระทบดังกึกแล้วแบคฮยอนร้องออกมาด้วยเสียงที่บอกได้เลยว่ากูไม่ทน  ร่างกายกระแทกกระทั่นใส่กันในจังหวะที่เร็วขึ้นชานยอลบีบสะโพกเนียนด้วยความเสียวจากส่วนปลายที่ถูกบีบรัด น้องก็น้องเพื่อนเถอะ ตอนนี้กูเอาทำเมียแล้วจะทำไมครับ..ไม่มีกฎหมายห้าม แต่คงมีแต่กฎไอ้เหลือกเนี่ยแหละนะ..เฮ้อออ ค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้ขอกินน้องแบคฮยอนก่อน 

“ ซี๊ดด อ๊าา..พี่ฮะ..แบคเสียว..”

“ เสียวก็ร้องครับ..ไม่เป็นไร ร้องดังๆเลยนะ..”  ชานยอลพูดเสียงแหบพร่าสุดจะทน สะโพกสอบกระแทกถี่ยิบแทบขาดใจแต่เขาเองก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน มือหนาจับรูดรั้งท่อนเนื้อที่เริ่มปล่อยน้ำออกมาอีกรอบ ยิ่งแบคฮยอนเสียวมากร้องเสียงดังเท่าไหร่ ด้านหลังจะรัดเขาแทบกระอักแล้วแบบนี้จะไม่ให้เห็นสวรรค์ไงครับ..

“ ซี๊ดด..อาา..แบคครับ..พี่จะไปแล้วนะ..อื้ออ..” 

“ อ่ะ..ยะ..ยะ..เ..พิ่ง..อื้อออ..” แบคฮยอนชะงักเมื่อชานยอลกระแทกจนตัวลอยเป็นสัญญาณให้รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะไป มือบางขยุ้มที่นอนไม่ทันครางสุดเสียง อีกฝ่ายก็ดึงมันออกจากโพรงร้อนที่บีบรัดแน่น ก่อนจะดึงถุงยางออกเพื่อปล่อยมันลงบนหน้าท้องแบนราบที่หดเกร็ง 

“ อาาาา...อืมม...” ชานยอลชัดรูดรั้งแกนเนื้อจนน้ำออกมาหมดก่อนจะ ก้มลงไปจูบแบคฮยอนที่ยังไม่เสร็จดี มือหนารูดรั้งมันพรางใช้นิ้วสอดเข้าไปเบียดแรงๆ จนร่างบางกระตุกกอดร่างเขาแน่น 

“ อ่ะ..อื้อออ....” เสียงหอบหายใจดังหอบมาทั้งคู่ ชานยอลจูบลงบนหน้าผากเนียนก่อนจะล้มตัวลงนอนบนพื้นเตียงพร้อมกับดึงอีกคนให้ขึ้นมานอนซบอกแกร่ง..แบคฮยอนสอดแขนกอดร่างแกร่งด้วยความรู้สึกโหยหาความอุ่น

“ เจ็บมั้ย..พี่ขอโทษนะ..” 

“ เจ็บฮะ..” แบคฮยอนช้อนตาขึ้นมองคนที่ลูบผมนิ่มไปมา แล้วส่งยิ้มอ่อนโยนที่แบคฮยอนชอบมาให้

“ ฮ่ะๆๆ..เดี๋ยวก็หายเนอะ..มาพี่จูบปลอบ..” เขาเกี่ยวลำคอของแบคฮยอนให้ขึ้นมารับจูบหนักหน่วงแต่วาบหวามสุดๆในความรู้สึก มือหนาลูบไปตามแผ่นหลังเนียนแล้วต่ำลงมาบีบขย้ำก้นนิ่มอย่างหมั่นเขี้ยว

“ พี่ชานยอลลามก..”

“ อีกรอบนึงได้มั้ย..ไม่ไหวแล้วอ่ะ..” ชานยอลจับมือของแบคฮยอนมาลูบเบาๆตรงส่วนอารมณ์ยิ่งทำให้อีกคนหน้าแดงจัดสุดๆ 

“ กะ..ก็ได้ฮะ...” 

ฟอดดดด..

“ น่ารักมากครับ..” เขาแหย่แล้วกดร่างบางลงเตียงอีกรอบ แบคฮยอนคงเขินจัดที่อีกคนขึ้นมาคร่อมแล้วทำหน้าเจ้าเล่ห์แบบไม่เคยเห็นมาก่อน....

พี่ชานยอล..แบคฮยอนชอบพี่ชานยอลมากๆเลยนะฮะ...


แบคฮยอนรู้สึกตัวอีกทีในตอนเกือบเที่ยง ร่างบางชะงักเมื่อถูกกอดรัดแต่พอเงยหน้าขึ้นแล้วเป็นหน้าพี่ชานยอลที่ยังหลับอยู่ รอยยิ้มบางๆก็เผยขึ้น แขนเรียวยิ่งกอดรัดแน่นและเลือกจะแนบหน้าลงบนอกกว้างเช่นเดิม 

“ พี่..เป็นของผมแล้วนะฮะ...” คำพูดแผ่วเบาแต่สีหน้าที่เปลี่ยนไปนั่นทำให้แบคฮยอนรู้สึกเหมือนตัวเองมีความสุขในการครอบครองครั้งนี้จริงๆ..พี่ชานยอลเท่ห์ที่สุด ใจดีมากด้วย...เขารู้สึกดีนะที่มีอะไรกับผู้ชายคนแรกแล้วเป็นปาร์คชานยอล 

แต่คนๆนี้ไม่ใช่แค่ผู้ชายที่บอกว่ามีอะไรกันแล้วต้องรับผิดชอบ..เพราะงั้น...ความเจ้าชู้ก็ยังมีเป็นสันดานอยู่ดี.. ร่างบางขมวดคิ้วเมื่อต้องคิดว่าจะทำยังไงให้คนๆนี้หยุด...

“ อืมม...” เสียงครางฮือดังขึ้นเหมือนรู้สึกตัว แบคฮยอนเงยขึ้นขึ้นมามอง

“ ตื่นแล้วเหรอฮะ...” 

“ แบคตื่นนานแล้วเหรอ..” ชานยอลพูดเสียงงัวเงีย

“ เมื่อกี้เอง..” แบคฮยอนยิ้มให้ ชานยอลก็เหมือนกัน..เขาจุ๊บเบาๆบนริมฝีปากนิ่มแล้วขยับตัวเพื่อจะไปอาบน้ำ แบคฮยอนนอนลงบนหมอนมองเเผ่นหลังที่เดินเข้าไปอาบน้ำแล้วต้องขมวดคิ้วว่าจะทำยังไงต่อไปดี
วิธีที่จะทำให้ปาร์คชานยอลเป็นของพยอนแบคฮยอนเพียงคนเดียว...







1 ความคิดเห็น: