“
อี้ชิง..แกไปไหนมาห๊ะ!...”
เสียงตะคอกของพ่อดังขึ้นเมื่อเขาเดินกลับเข้ามาในบ้าน ร่างบางชะงักรู้สึกเหมือนตัวเองขาดการควบคุม
มือที่คอยปิดริมฝีปากค่อยๆปล่อยลงข้างตัว
“
ขอ..ขอโทษครับ..”
“ พอเถอะค่ะคุณ..เขากลับมาปลอดภัยก็ดีแล้ว..”
คุณผู้หญิงของบ้านเอ่ยปรามเสียงเรียบแล้วมองเด็กคนที่เหมือนตื่นอะไรมา
แบบที่ไม่ใช่จางอี้ชิง
“
อย่าทำแบบนี้อีกนะ..รู้บ้างรึเปล่าว่าคนที่บ้านเป็นห่วงมากแค่ไหน..”
“...........”
“
มาเหนื่อยๆขึ้นไปอาบน้ำแล้วลงมาทานข้าวซะอี้ชิง..”
“
ผม..ทานมาแล้วครับ..”
“ อะไร..”
พ่อเขาขมวดคิ้วเมื่อลูกชายคนเดียวพูด
“
งั้นเหรอ..งั้นก็ขึ้นไปพักผ่อนเถอะ แต่ต่อไปจะไปไหนมาไหนก็ควรติดต่อมาก่อนถึงเธอจะไม่อยากจะให้ใครไปรอก็ตาม
ก็ต้องโทรมาบอกที่บ้านไม่ใช่หายไปแบบนี้..”
“ ขอโทษครับ...”
อี้ชิงผละตัวเองขึ้นไปข้างบนโดยที่ไม่กล้าสู้หน้าใครในตอนนี้
“
คุณคะ...ใจเย็นๆก่อนเถอะ..” คุณนายจางเตือนสติสามีที่กำลังโมโหงุ่นง่าน
“ ........... “
“
ฉันว่าเรามาหาวิธีกันท่าไม่ให้อี้ชิงเจอกับอู๋อี๋ฟานกันเถอะค่ะ..”
“
เหม่ยหลิน...ฉันไม่น่าให้เด็กคนนี้อยู่ในงานเลี้ยงเลยจริงๆ..อี้ชิงไม่ชอบงานสังคมแต่ฉันก็ยังบังคับให้เขาอยู่
”
“............”
“
มันเป็นความผิดของฉัน..” คำพูดเหมือนจะโทษตัวเองดังออกมาจากปาก
คนเป็นภรรยาคงได้แค่พูดปลอบและช่วยกันหาวิธีเพื่อไม่ให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
ถ้าอู๋อี๋ฟานเอาตัวจางอี้ชิงไปได้แม้แต่เรื่องผิดกฎหมายพวกเขาก็ต้องทำให้อย่างเลี่ยงไม่ได้...
ก็อกๆ...
เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่ประตูจะเปิดออกโดยเป็นนายหญิงของบ้าน
อี้ชิงหันไปมองแต่ก็ยังให้ความเคารพคนตรงหน้าราวกับเป็นผู้มีพระคุณ
“
ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอน่ะ...มีเวลารึเปล่า”
“ ครับ...” อี้ชิงปล่อยให้เจ้าของบ้านตัวจริงเดินเข้ามาในห้องนอน
ร่างบางของคุณนายจางนั่งลงบนเตียงนุ่มเธอมองเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ไม่ไกลและเริ่มต้นพูดธุระบางอย่างที่ไม่อาจจะปกปิดไว้ได้
“
เธอ...คงรู้จักอู๋อี๋ฟานแล้วใช่มั้ย..”
“
แล้วเขาเกี่ยวอะไรด้วยเหรอครับ..” อี้ชิงขมวดคิ้วตัดสินใจจะถามออกไปเพราะดูเหมือนคุณเหม่ยหลินจะทำหน้าไม่ดีตั้งแต่ที่เขากลับมาแล้ว
“ อี้ชิงฉันอยากให้เธออยู่ห่างจากเขาได้รึเปล่า..มันอาจมีบางเรื่องที่เธอคงไม่เข้าใจแต่ผู้ชายคนนั้นเข้ามาเพื่อผลประโยชน์บางอย่างจากพวกเรา
“
“............” ร่างบางนิ่งเมื่อคุณนายจางเอ่ยขึ้น
คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อยเมื่อต้องคิดถึงคงที่พึ่งแยกกันเมื่อไม่นาน
“
เธอเองก็เป็นคนในครอบครัว..และฉันก็หวังว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น “
“
ผมกับเขาเราไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ต้องเกี่ยวข้องกันหรอกครับ..”
“
อู๋อี๋ฟานเป็นคนที่อยากได้อะไรก็ต้องได้...ผู้ชายคนนี้น่ากลัวมากเพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเธอจำคำพูดฉันไว้นะ
อย่าได้หลงกลผู้ชายคนนั้น “
“..........”
“
เขาอาจจะทำเรื่องบางอย่าง...แต่ฉันอยากให้เธอรู้อี้ชิงทุกคนต่างก็ปกป้องเธอ..”
“
ผมไม่เข้าใจครับ...”
“
ตอนนี้อาจจะไม่เข้าใจ..แต่ซักวันเธอจะรู้เอง..”
เธอยิ้มบางๆก่อนจะเดินออกไปจากห้องเพื่อให้อีกคนได้พักผ่อน อี้ชิงถอนหายใจเบาๆเอาแต่คิดว่าแล้วมันเกี่ยวอะไรกับตัวเขา
มันเกี่ยวอะไรที่เขาจะต้องสนใจผู้ชายที่ชื่ออู๋อี๋ฟานนั่นด้วย
................................................................................................................
รถสปอร์ตสุดหรูแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านที่เรียกได้ว่าคฤหาสแท้ๆพร้อมกับเจ้าของรถลงมาด้วยท่าทางมีความสุขสุดๆ
อี๋ฟานเดินฮัมเพลงโยนกุญแจรถให้ลูกน้องที่ยืนรอเจ้านาย
“
นายครับ..คุณจุนมยอนรออยู่ในห้องรับแขกครับ..”
“ ว่าไงนะ...”
อี๋ฟานตวัดตามามองอย่างหงุดหงิดเมื่อได้ยินชื่อของว่าที่คู่หมั้น
“
คุณจุนมยอนมาครับ...”
“ .......... “
ร่างสูงขยับเดินเข้าไปในทิศทางที่คนสนิทบอกว่าอีกคนอยู่ที่ไหน ตาคมมองร่างบางของว่าที่คู่หมั้นที่กำลังนั่งอยู่ตรงโซฟากลางห้องแล้วยังมองตรงมายังเขาด้วยสายตาเรียบนิ่งเหมือนกัน
“ ไปไหนมา....”
เสียงหวานๆแต่เย็นเฉียบดังขึ้นเมื่อเห็นอู๋อี๋ฟานเดินเข้ามาหาเขา
“
จะมาทำไมถึงไม่บอกล่ะ..” ร่างสูงเดินเข้ามานั่งตรงโซฟาแล้วยกยิ้มให้
“ ถ้าบอก..ฉันจะได้รู้มั้ยว่าคุณเที่ยวเล่นไม่เป็นเวลาแบบนี้..”
“
หึๆ..อะไรล่ะฉันมีธุระต้องทำต่างหาก...” อี๋ฟานยักไหล่ราวกับไม่สนใจคำพูดที่กำลังคาดคั้น
“
ทำอย่างกับฉันไม่รู้นิสัยคุณไปได้นะ..”
“............”
“
แล้วเด็กที่ชื่อจางอี้ชิงนี่..เป็นใครเหรอครับที่รัก..”
อยู่ๆคนสวยที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาก็เอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มน่ากลัว
ตาคมเหลือบไปมองแล้วจ้องหน้าจุนมยอน
“
อย่ายุ่งกับคนของฉัน...”
“
เป็นถึงขนาดนี้เลยรึไง...”
“
ก็ถ้าเธอเข้าไปยุ่งวุ่นวายให้ฉันเสียแผนล่ะก็..เธอคงได้รู้ว่าฉันเอาจริงยังไง..”
อี๋ฟานพูดเสียงนิ่งเหมือนออกคำสั่งกลายๆ
ก่อนจะลุกขึ้นเดินขึ้นข้างบนไม่สนว่าคนที่อุตส่าห์รีบกลับมาจากเกาหลีเพื่อมาล้วงคอเอาความจริงเรื่องเด็กที่ชื่อจางอี้ชิงจะรู้สึกยังไง
“
คงต้อง...เจอกันหน่อยแล้วมั้ง คุณหนูจาง...” จุนมยอนพึมพำเบาๆเมื่อคิดว่าคนตรงหน้าไม่ใช่แค่หลงธรรมดา เขาคงไม่สนใจเพราะคู่หมั้นตัวเองเป็นคาสโนว่าตัวพ่อถ้าไม่รู้ว่าอี๋ฟานลงทุนขู่ครอบครัวนั้นเพื่อจะเอาคนๆนั้นมาเชยชม
เป็นความต้องการที่ไร้สาระที่สุด
จุนมยอนรู้ดีเรื่องจะนอนกับผู้หญิงไปทั่วมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เราต่างตกลงกันไว้ถ้าไม่แต่งงานกันจะไม่ก้าวก่าย
ซึ่งเขาก็ไม่เคยยุ่ง ครอบครัวเขาอยู่เกาหลี แต่อี๋ฟานอยู่ฮ่องกง
ไม่สามารถมารับรู้พฤติกรรมกันได้แน่นอนนอกจากว่าตัวเขาเนี่ยแหละจะมีคนจับตาดูไว้และอี๋ฟานก็ไม่เคยสนใจ
“
ซูโฮมาถึงที่นี่ทำไมถึงไม่บอกฉันวะ!...”
อี๋ฟานหันไปเล่นงานเมื่อเรียกให้จื่อเทาเข้ามาหาในห้องทำงาน
“
ผมติดต่อเจ้านายไม่ได้ครับ..”
“
แล้วเขารู้เรื่องอี้ชิงได้ยังไง..”
“
เรื่องนั้นผมไม่ทราบครับ..”
“
คิดว่าฉันอยากได้ยินคำว่าไม่ทราบจากปากแกมั้ยห๊ะ!...”
อี๋ฟานตวาดเสียงดังใส่
มันหงุดหงิดที่สุด..ถ้าจุนมยอนไปยุ่งกับจางอี้ชิงเมื่อไหร่คงเป็นเรื่องแน่
แค่นี้ก็เล่นด้วยยากอยู่แล้ว
“ ...........”
“
ห่าเว้ย..ถ้าหมอนั่นไปหาเรื่องแล้วฉันไม่ต้องเริ่มใหม่หมดเรอะ!...” มือหนาตบลงบนโต๊ะอย่างอารมณ์ร้อนเหมือนไฟ
“ ......... “
“
ไปหาตัวไอ้พวกปากสว่าง..แล้วลากมันมาให้ฉัน คนที่รู้เรื่องตอนนี้มันมีไม่กี่คนหรอก
อีกอย่างอย่าให้ซูโฮรู้ด้วย “
“ ได้ครับนาย...”
“
อ้อ..แกไปตามดูว่าที่เมียฉันหน่อยล่ะกัน...อย่าให้ใครเข้าใกล้เด็ดขาดแม้แต่คู่หมั้นฉัน
“ อี๋ฟานนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานเนื้อดีหลังจากออกคำสั่งเด็ดขาดออกไป
ขืนปล่อยให้จุนมยอนไปเจอแล้วล่ะก็คงไม่พ้นบอกความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาแล้วคนอย่างจางอี้ชิงต้องระวังตัวจากเขาเป็นเท่าตัวแน่
“
ไม่ว่าจะเป็นใครฉันก็ไม่ยอมให้ใครมาขวางทางเด็ดขาด อะไรที่ได้มายากๆ
มันก็ควรค่าที่จะขย้ำ “
..............................................................................................
รถถูกจอดเทียบเมื่อถึงหน้ามหาลัยชื่อดัง
ลู่หานกำลังจะเปิดประตูรถโดยไม่หันมาขอบคุณคนที่อุตส่าตื่นเช้ามาส่งซักนิด
มือหนาเลยต้องรั้งร่างบางเอาไว้ด้วยตัวเอง
“
เดี๋ยวไปส่งหน้าคณะ เดินเข้าไปมันไกล..”
“
ผมเดินเองได้..ไม่รบกวน..”
“
จะดื้อทำไมครับ..พี่จะไปส่งนี่ไม่ชอบ?...”
“ หยุดเรียกแทนตัวเองว่าพี่เถอะ..ฟังเลยแล้วมันเจ็บ..”
ลู่หานปลดมือเขาออกอย่างไม่ไยดี
“ เอาสิ..คิดว่าเดินเข้าไปไหวก็ตามสบาย
เจ็บไม่ใช่เหรอ..ขนาดลงมาจากหอยังต้องให้ฉันอุ้มเลย..”
“ เงียบไปเลย!..” ลู่หานหันไปเปิดประตูด้วยความโมโหก่อนจะลงจากรถ
เซฮุนหัวเราะเบาๆเมื่อต้องเห็นไอ้คนอวดดีเดินเหมือนจะล้มไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าตัวเองไปโดนอะไรมา
ร่างสูงเลยต้องเปิดประตูแล้วเดินลงไปอุ้มลู่หานกลับมาที่รถเหมือนเดิม
“ ปล่อยนะ!!..” มือบางทุบลงบนร่างกายที่แข็งแรง
“
ร้องไป..อยากอายมั้ย..”
“..........”
“
เธอนี่มันดื้อ...” เซฮุนพึมพำก่อนจะยัดร่างบางในอ้อมแขนเข้าไปในเฟอร์รารี่สีดำเงา ใบหน้าหวานแดงซ่านขึ้นมาทันทีไม่ค่อยได้เจอหรอกไอ้ที่คุยกันดีๆ
ตั้งแต่ที่เซฮุนมีเรื่องบาดหมางกับพี่ชายเขา ร่างสูงขับรถเข้ามาส่งถึงหน้าคณะจริงๆ
“
เย็นนี้จะให้มารับมั้ย..”
“
ไม่ครับ..ไม่ต้องเจอกันได้ยิ่งดี..”
“ หึๆ..ทำไมล่ะ..อยากกินข้าวด้วยนะ..”
เซฮุนพูดเสียงหยอกล้อก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มนิ่มๆซักที
“
อย่าทำแบบนี้ได้มั้ย..”
“ ทำไม..”
“
หน้าคณะ..ผมอาย..อีกอย่างไม่ได้เป็นอะไรกัน..”
ลู่หานพูดแค่นั้นก่อนจะเปิดประตูลงไปทันที เซฮุนมองจนอีกฝ่ายเดินเข้าไปในคณะก่อนจะขับรถออกไป
“ เสี่ยวลู่!!...” เสียงน่ารักๆดังขึ้นจากด้านหลัง
ก่อนที่ร่างกายเขาจะชะงักเมื่อถูกตบไหล่
“
อะ..คะ..คยองซู..”
“
ก็เออซิ..เรียกตั้งนานเป็นอะไรรึเปล่า..” ดวงตากลมโตมองสำรวจเพื่อนอย่างนึกสงสัย
ดูเหม่อๆลอยๆนะ..
“ เปล่า..”
“
อืม..งั้นไปเรียนเถอะ..” เพื่อนสนิทต่างสัญชาติยิ้มให้อย่างน่ารักก่อนที่ร่างเล็กๆจะใช้แขนตัวเองกอดคอเพื่อนที่สูงกว่าไปด้วยกัน
ภายในห้องลู่หานเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนเหม่อๆพอคิดเรื่องของคนที่พึ่งแยกกันก็พาลให้คิดเรื่องก่อนหน้าที่ไม่เกิดเรื่องขึ้น
ลู่หานชอบพี่เซฮุน..แต่ไม่ใช่โอเซฮุนในตอนนี้
“ เสี่ยวลู่..”
“
อะ..ห๊ะ..ว่าไง..”
“
นี่..เหม่ออะไรล่ะ..”
คยองซูยังทำหน้าเหมือนคาดคั้นแล้วเอาหนังสือเล่มใหญ่ขึ้นมาตั้งแล้วก้มหน้าหลบอยู่เพื่อไม่ให้อาจารย์เห็นแต่คงไม่รู้ว่านั่นน่ะเป็นการบอกพิรุธอย่างชัดเจน
“
คยองซูเอาหนังสือลง..”
“ ทำไม..”
คิ้วเรียวขมวดยุ่งเมื่อมือบางของลู่หานดันมันลง
“
อาจารย์มองน่ะซิ..อยากโดนไล่ออกไปเหรอ..”
“
งั้นก็บอกมาซิว่าคิดอะไรอยู่...มีเพื่อนเอาไว้ทำอะไรล่ะ..”
โดคยองซูท้าวคางแล้วมองตรงไปยังอาจารย์หน้าห้อง ทำราวกับฟังแต่ก็เปล่าเลย
เขากำลังคุยกับลู่หานอย่างตั้งใจ
“
เฮ้อออ..ไม่มีอะไรหรอก..”
“
อกหัก..ทะเลาะกับแม่ หรือว่าไม่มีตังค์
เห้อถ้าเรื่องที่สามนะฉันช่วยไม่ได้ว่ะเพราะตอนนี้ก็แบบงวดชนงวด ฮิๆๆ..”
คยองซูหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ลู่หานหัวเราะเบาๆ
“
คยองซูอ่ะ..น่ารักนะ..”
“
หือ..ไม่เอาได้มั้ย..ฉันออกจะแมนเต็มร้อย ฮ่าๆๆ...”
“ อืม..พ่อคนแมนตอนนี้มีจีบใครอยู่เหรอ..”
“
ก็เด็กคณะอักษร..น้องเจินเจิน..มั้ยวะ..เออๆน่าจะใช่แหละเธอชื่อเจินเจิน..”
คยองซูขมวดคิ้วเมื่อนึกชื่อน้องที่ไปจีบไม่ได้เลยสุ่มมั่วไป
“
จะจีบเขาแต่จำชื่อไม่ได้นี่..ไหวป่ะ..”
“ โถ่..ก็อะไรล่ะ
มันช่วยไม่ได้นี่น่าชื่อมันจำยากอีกอย่างนะอีกอย่าง..ก็น้องเขาบอกไม่ชัดนี่หว่า..”
“
ฉันว่านายอ่ะฟังไม่ชัด..จะไปโทษน้องเขาทำไม..”
“
ฮิๆ..แล้วตกลงบอกได้รึยังว่าเป็นอะไร..คิดอะไรอยู่เครียดๆก็บอกมาเถอะ..”
“
คยองซู..เคยมีคนที่ชอบจริงๆรึเปล่า..”
“ เยอะแยะน่า..”
“
ไม่ใช่..ต้องเป็นคนที่ชอบน่ะ ไม่ใช่แค่ชอบไปวันๆแต่เป็นคนที่เราคิดว่าต้องเป็นคนนั้นจริงๆ..”
“ ........ “
“ ขอโทษ...”
“
คิดว่าคงไม่...ถ้าต้องชอบจริงๆฉันก็คงยังไม่มีหรอก..” คยองซูยิ้มบางๆ
เขาก็แค่ผู้ชายทั่วไปที่ไม่ได้มีอะไรน่าดึงดูด
แถมยังเตี้ยไม่ได้มาตรฐานเพอร์เฟ็คยิ่งคิดเรื่องแบบนี้แล้วรู้สึกว่าชาตินี้กูจะมีเมียมั้ย..เห้ออ
“ ........... “
“
ทำไม..มีแฟนเหรอ..”
“ เปล่าๆ...”
“
วันนี้เห็นมีรถคันหรูมาส่งเลยนิ..รู้มั้ยพวกผู้หญิงมันเม้าส์แหลกเลยล่ะ
เชอะๆพวกขี้อิจฉา..ตัวเองไม่ได้แบบนี้ล่ะซิ..”
“
ไม่ใช่แฟน..คนรู้จักเท่านั้นเอง..”
“ หืมม...”
“...........”
“
เอาเถอะๆ...ไม่อยากพูดตอนนี้ก็ไม่เป็นไรหรอก..งั้นเย็นนี้ไปกินหมูกระทะกันป่าว..”
“
ได้ๆ...ฮ่าๆๆ...”
หลังเลิกเรียนเพื่อนรักไซค์เล็ก?ต่างเดินออกมาจากตึกคยองซูบอกให้ลู่หานรออยู่หน้าคณะส่วนตัวเองก็ไปปั่นจักรยานคู่ใจมาหาเพื่อน
“
นี่ขึ้นมาเลยยย..” คยองซูกวักมือเรียกด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า
เสี่ยวลู่หานคงวิ่งเข้าใส่ถ้าตอนนี้สะโพกเขาไม่เจ็บนะแล้วจะไปซ้อนท้ายจักรยานคยองซูคงไม่ไหวอ่ะ
“ เอ่อ..คือ...”
ปี๊นๆ...
เสียงแตรรถดังขึ้นคยองซูและลู่หานหันไปมองตามๆกัน
เฟอร์รารี่คนเดียวกับเมื่อเช้าเข้ามาจอด คยองซูตาโตเมื่อเห็นผู้ชายรูปหล่อเห็นแล้วหมั่นไส้ลงมาจากรถ
มือหนาถอดแว่นตาสีดำของซุปเปอร์แล้วยกยิ้มให้เด็กเรียนท่าทางเรียบๆอย่างเสี่ยวลู่หาน
คยองซูรีบปล่อยจักรยานลูกรักแล้วเดินมาขวางตรงหน้าเพื่อนก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะเข้ามาใกล้
“ ตรงเวลาดีมั้ยล่ะ...” เซฮุนพูดแต่ก็ยังเหลือบมองคยองซูด้วยท่าทางขำขัน
ท่าทางจะหวงเพื่อนจังนะ..
“
คนรู้จักเหรอเสี่ยวลู่..” คยองซูหันไปถาม
“..........”
“
นี่เพื่อนเหรอ...น่ารักดีนะ..”
“
เดี๋ยวครับ..ผมเป็นผู้ชายจะมาบอกว่าน่ารักกันมันเสียมารยาทนะครับ..”
“ หึๆๆ....”
“
คุณเป็นคนที่มาส่งเพื่อนผมเมื่อเช้าใช่รึเปล่า “
“
ฮ่ะๆๆ..ใช่ครับ..ผมโอเซฮุนเป็นผู้ปกครองของลู่หานน่ะ..”
“
อ้อ..ผู้ปกครองนี่เอง..แหะๆๆ..ขอโทษนะครับ “
“
นี่คยองซูครับ..” อยู่ๆลู่หานก็บอกไป
“
นักเรียนแลกเปลี่ยนเหรอ..แต่พูดจีนชัดเจนเลยนะ..”
“
ไม่ใช่..ผมมาอยู่กับแม่ต่างหาก “
“ เหรอ...”
“ ไปกันเถอะคยองซู..”
ลู่หานคว้าข้อมือของเพื่อนตัวเล็กที่ขมวดคิ้ว แต่คงชะงักที่เซฮุนก็เร็วจนคยองซูยังตาโต
ร่างบางถูกโอบเอวแล้วดึงรั้งให้เซเข้ามาในอ้อมแขน
“
อย่า..ทำให้หงุดหงิดนะครับ..”
คำพูดกระซิบข้างหูก่อนที่เซฮุนจะหันไปยิ้มให้คยองซูที่มองมา
“ ........ “
“
คยองซูพี่คงต้องพาเสี่ยวลู่กลับก่อนนะครับ..วันนี้เขาไม่ค่อยสบาย “
“
อ่า..ดะ..ได้ครับ..แหะๆๆไม่มีปัญหาครับผม..”
คยองซูยิ้มให้แต่เหมือนเสี่ยวลู่จะไม่ค่อยมีความสุขที่ถูกลากไปที่รถแม้แต่น้อย
คยองซูยืนงงอยู่ที่เดิมยิ่งเห็นเสี่ยวลู่ส่งสายตาอ้อนวอนมาให้แต่คงช้าแล้วล่ะเพราะเพื่อนลูกจับยัดเข้าไปในตัวรถเรียบร้อยแล้ว
ตากลมโตมองเฟอร์รารี่ขับออกไปอย่างเร็วเเล้วตัวเองก็ยืนเกาหัวด้วยความไม่เข้าใจร่างเล็กเดินไปยกจักรยานคู่ใจขึ้นคร่อมแล้วปั่นเพื่อกลับหอพักใกล้ๆ
เสียงหวานฮัมเพลงไปตลอดทางมีส่งยิ้มให้สาวๆบ้างอย่างน้อยชีวิตจะได้มีสีสัน ฮ่าๆๆ
ปี๊นๆๆๆๆ
เอี๊ยดด
“
อ๊ากกกกกกกกกก....”
โครม!!...
“
ฮึกก..เจ็บบ...”
ร่างเล็กล้มลงเมื่อถูกรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงเฉียดแล้วทำให้คนที่ปั่นจักรยานมาถูกทางล้มลง
คยองซูกัดปากแล้วพยุงตัวขึ้นจากที่ถูกรถทับ
ข้อศอกขาวเปื้อนเลือดก่อนที่จะได้ยินเสียงเหมือนคนลงมาจากรถ
“ ขี่รถยังไงวะ!..รถกูเป็นรอยเลยเห็นมั้ย!!..”
เสียงทุ้มดังตะคอกเมื่อลงมาดูสภาพรถตัวเอง
ดวงตากลมโตตวัดไปมองด้วยความโกรธก่อนจะเดินไปผลักอีกคนที่ไม่มีแม้แต่น้ำใจแถมนิสัยยังใช้ไม่ได้
“
นายนั่นแหละขับรถยังไงห๊ะ!!...”
เสียงหวานตวาดกร้าวยิ่งกว่าเสียงปกติ คยองซูไม่เคยโมโหอารมณ์ร้ายแต่ถ้าโมโหก็ไม่ยอมใครเหมือนกัน
“
อะไร..ก็ใครมันใช้ให้มึงมาขวางกูล่ะ..”
“
อ้อ..นี่ขึ้นกูมึงเหรอวะ...”
“
จงอินคะ..เป็นอะไรมากรึเปล่า..” ร่างบางของหญิงสาวที่อยู่ในรถด้วยลงมาดู
คยองซูไม่ได้สนใจจะหันไปมองเธอด้วยซ้ำแต่เขาต้องเอาเรื่องไอ้บ้านี่
“
ไม่มีอะไร..ก็แค่ไอ้เด็กบ้า..”
“
นี่..ว่าใครบ้า..”
“
อย่ายั่วโมโหนะ..มึงจะเอายังไงรับผิดชอบมา..”
“
เหอะๆๆ..ใครบอกจะรับผิดชอบห๊ะกูไม่ผิด
กูปั่นจักรยานถูกตามกฎหมายทุกอย่างมีแต่มึงนั่นแหละที่ขับมาชนกูก่อน
ถามจริงมึงจับไมล์มั้ยวะ ตอนมึงไปสอบใบขับขี่เขาไม่สอนรึไงวะ!..อ๊ะ!..” คยองซูชะงักเมื่ออยู่ๆก็ถูกกระชากคอเสื้อ
“
ไปโรงพักกับกูเดี๋ยวนี้!..”
“ กูไปแน่ไอ้สลัด!!...” มือบางผลักคนตัวสูงแต่นิสัยทุเรศออกไปจากตัวเหมือนรังเกียจ
คนที่ชื่อจงอินหยิบเอาโทรศัพท์ออกมาโทรหาใครซักคน
ส่วนคยองซูเดินไปดูสภาพรถตัวเองน้ำตาแทบคลอพอเห็นสภาพ แงๆๆ
ฟิกเกียร์พังอ่ะ..แล้วเขาจะปั่นมาเรียนได้ไง
เขาไม่ได้สนใจแผลที่มีเลือดไหลแต่จะร้องไห้กับจักรยานเนี่ยแหละ
“
กูจะให้ประกันมาเคลีย์..มึงตายแน่..” จงอินพูดขึ้นอย่างอาฆาต เขาขี้หน้าคาดโทษแต่คนอย่างโดคยองซูถ้าของขึ้นแล้วก็ไม่ยอมทั้งนั้นแหละเว้ย
“
คิดว่ากลัวเหรอวะ..รถมึงแค่ถลอก โถ่ไอ้ปัญญาอ่อนเอาเข้าอู่แป็บเดียวก็เสร็จ
แต่รถกูพังมึงต้องรับผิดชอบ!..”
“
มึงรู้มั้ยว่ารถกูมันแพงกว่าไอ้รถขยะของมึงเป็นสิบเท่าเถอะ!!...” จงอินเดินพรวดพราดเข้าไปเอาเรื่องคู่กรณี
“ มึงว่าไงนะ!!..” ไม่ทันที่คยองซูจะวาดหมัดใส่ปากหมาๆของไอ้คนปากดีซักที
ดูเหมือนประกันของรถคันหรูที่แค่ถลอกก็มาถึง
คยองซูกอดอกเมินหน้าหนีความเจ็บแล่นริ้วมาเป็นระยะเขาถึงได้รู้ว่าตัวเองมีแผล หลังจากเคลียกันไม่ลงเพราะต่างคนก็ไม่มีการยอมเรื่องเลยต้องถึงโรงพัก
พอมาถึงก็นั่งเถียงกันไม่จบสุดท้ายคนที่ต้องยอมคือจงอินเพราะตัวเองขับรถมาเฉี่ยวคยองซูที่ปั่นมาถูกทางแล้วจริงๆ
ร่างสูงเดินมาเปิดประตูรถที่แค่ถลอกนิดหน่อยแต่มันทำเขาหงุดหงิดแต่ก็ยังดีที่มีประกันชั้นหนึ่ง
ตาคมเหลือบมอร่างเล็กแต่ปากจัดเดินมาลูบๆคลำๆฟิกเกียร์ที่หมดสภาพ แล้วเดินลากรถด้วยสภาพคอตก..ขอแกล้งซักหน่อยเถอะ
“
เฮ้ย..ให้ไปส่งมั้ย..” เขาขับรถมาเทียบๆเคียงๆคนที่หันมาทำตาโหดใส่
รู้น่าว่าตาโตแต่ไม่ต้องแหกเยอะก็ได้
“ ไปให้พ้น...”
“
อะไรวะ..คนอุตส่ามีน้ำใจ..”
“
อ้อเหรอ..แล้วไอ้บ้าตัวไหนที่เถียงคอขึ้นเอ็นวะครับ..ไอ้ตอแหล..”
“
โอ้โห..แรงนะเว้ย เคลียร์กันซักทีดีมั้ยไอ้เตี้ย..” จงอินพูดเหมือนโมโห
“ เออ..ลงมา!..” เสียงหวานดังกร้าวและจงอินก็บ้าพอที่จะจอดรถแล้วเปิดประตูลงมา
เขากระชากร่างของคยองซูอย่างแรงจนอีกคนเซปล่อยจักรยานสุดที่รักลงพื้น
“ อะ..โอ้ยย..”
“
เฮ้ย..มึงเลือดออก..” จงอินเหมือนตกใจรีบปล่อยคยองซูที่ร้องออกมา
มือเขามีเลือดเล็กน้อยเลยเลื่อนสายตาลงไปสำรวจร่างบางทันที
“ เออ!..เลือดกูออกจนแห้งแล้วเหอะไอ้บ้า..เพราะมึงเลย!..”
คยองซูผลักอีกฝ่ายออกแล้วเดินไปยกจักรยานตัวเอง
เขาทำหน้าเซ็งๆใส่คู่กรณีอีกรอบแล้วพาฟิกเกียร์สุดที่รักไปหาอู่..แงๆๆๆ...
“
เฮ้ย..ซ่อมเสร็จก็โทรหานะเว้ย..”
“
เออ..มึงนั่นแหละรับผิดชอบ...”
คนที่เดินผ่านไปแล้วยังหันมาตะโกนตอกย้ำให้รู้อีกครั้งว่า..มึงต้องรับผิดชอบลูกรักกูครับ จงอินทำเสียงเหอะขาเรียวยาวเดินกลับไปเปิดประตูรถแล้วบึ่งมันออกไปโดยไม่สนใจใครที่ยังบ่นด่าสารพัด คยองซูกลับมาหอแล้วเดินขึ้นไปทำแผลอย่างอนาจจิตเป็นที่สุด
เจ็บอ่ะ..เจ็บมากด้วย
แต่เรียนแพทย์ก็ต้องเจอเลือดเป็นธรรมดาไม่งั้นไม่รู้จะเอ็นมาเพื่ออะไร
Rrrrrr Rrrrrrrrr เสียงโทรศัพท์ดังขัดจังหวะ
ตากลมเหลือบไปมองโทรศัพท์มือถือที่อยู่ไม่ไกลเขาเลยไถลตัวแล้วหยิบมันมากดรับ
“ ฮัลโหล...”
( โย่วไอ้เหลือก..แดกข้าวยังค๊าบบ
ฮ่าๆๆๆๆ...”
“ ไอ้สลักผัก.!!
“
(
โถ่เหลือกน้อยของกูอารมณ์เสียเหรอ...เป็นไรวะมึง..)
เพื่อนสนิทหัวเราะคลอตลอดเวลาที่ได้แกล้ง
คยองซูชักสีหน้าเซ็งๆเต่ก็ยังคุยโทรศัพท์กับมันได้
“
มึง..โทรทางไกลมันแพง..”
(
เออ..กูคิดถึงมึง ฮ่าๆๆ..ไม่เป็นไรค่าโทรพ่อกูจ่าย..)
“ ลูกทรพี..”
(
เออน่าคยองซู..มึงก็ซีเรียสว่ะ แล้วตกลงโมโหไรวะ..)
“ มึง..แม่งกูนะ$&*#@*(_(&%#&^*^$$#&*())(_)*^%%#@@$^&*)*&%#@&^&^****%#$@
แล้วรถกูก็พังเลยอ่ะ..เจ็บใจสุดๆเลย..” คยองซูเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เพื่อนรักต่างแดนฟังด้วยความแค้นสุดๆ
(
เออ..มึงน่าจะชกมันไปซักหมัด..)
“ ฮึ่ย!..แค้นมากกก!!...”
(
น้อยๆหน่อย..แล้วเจ็บมากมั้ยวะ..)
“
นิดหน่อยก็ทำแผลอยู่..กูแค้นจนหายเจ็บมึงคิดดูนะ เหอะ..ดีที่กูไม่ยอมนะไม่งั้นต้องเสียค่าซ่อมรถให้มันแน่ๆว่ะ
มึงก็รู้กูถังแตกอยู่..”
(
กูว่าเขาปากหมาไม่เท่ามึงมากกว่ามั้งคยองซู..ฮ่าๆๆ..)
“
เดี๋ยวกูโบก..เออ..แล้วน้องกูเป็นไงบ้างวะ..”
(
แบคฮยอนเหรอ..ไม่นี่ปกติ..)
“
อืมๆๆ...มึงก็ดูแลให้หน่อยล่ะกัน มันไม่ค่อยประสีประสายิ่งมันน่ารักๆน่าพาไปปล้ำอยู่ด้วยกูเป็นห่วงมันว่ะ..”
คยองซูถอนหายใจเบาๆเมื่อพูดถึงน้องชายที่อยู่เกาหลี
เขาได้ทุนมาเรียนฮ่องกงแต่ประเด็นคือเขาอยากมาหาแม่บ้างก็เท่านั้นเอง
พ่อเลยยอมอนุญาตแต่ต้องมีข้อแม้คือต้องกลับบ้านทุกซัมเมอร์
(
ไม่ต้องห่วง..แบคฮยอนก็เหมือนน้องกูแหละ..)
“ เออ...”
(
แล้วนี่มึงจะกลับเกาหลีมั้ยตอนซัมเมอร์เนี่ย..ติดเรียนอีกมั้ยวะ..)
“ กลับๆ..”
( เออ..กลับก็ดี
กูมีเพื่อนจะให้มึงรู้จักด้วย หึๆๆ กูรู้มึงยังไม่มีแฟนล่ะซิ..)
“
หยาบคาย..กูมีกิ๊กครับ..เยอะด้วย ฮ่ะๆๆ..แต่มึงจะแนะนำใครให้วะสวยป่าวว..”
คยองซูหัวเราะร่าออกมาทันที
(
อืมมม..ไม่รู้ซินะ
หึๆๆ..เพื่อนกูเองมันอยู่ฮ่องกงเหมือนกันแต่คงจะกลับมาช่วงซัมเมอร์เหมือนมึงแหละ )
“
จริงเหรอ..เออๆ..ขอสวยๆนะเว้ย..”
(
เลือกมากนะมึง..กูจัดให้นี่เยอะแล้วเหอะ )
..ขอสวยๆให้คยองชื่นใจหน่อยจะเหี่ยวเฉาตายแล้วว่ะ..”
(
ฮ่ะๆๆ..ไอ้เหลือกมึงนี่เข้าใจเล่นนะ..ทำกูขนลุกเลยไอ้บ้า..)
“
ไอ้ชานยอล..ปากมึงนี่ใส่ฟลอมารีนล้างบ้างนะกูเซ็ง..”
(
แหม..ถึงปากกูจะแบบนี้แต่หญิงตรึมครับ ฮ่าๆๆ )
“
เออ..ระวังเป็นเอดส์ตาย..”
( ปากเสียครับ..เดี๋ยวให้น้องหมาข้างบ้านจูบเลย..อ่ะกูว่าให้ไอ้กัมจงมันขยี้ปากมึงซักทีนี่คงหายหมาไปซักพักแหละวะ..ฮ่าๆๆๆ...)
“
เดี๋ยวๆ..อะไรๆ..ใครคือกัมจงวะ คนบ้าอะไรชื่อพิลึก..”
(
หึๆๆ..เดี๋ยวรู้ครับเดี๋ยวรู้..แค่นี้นะเว้ยเหลือก
เปลืองมากขอบอก..กูต้องประหยัดพลังงานชาติซึ่งพ่อกูคงต้องจ่าย
ฮ่าๆๆๆ...ไปนะจ๊ะจุ๊บๆๆ..ตี๊ด..)
“ จุ๊บพ่องมึงดิ
ไอ้ชานยอล ไอ้โย่ง ไอ้สัปเหร่อ..ไอ้เส็งเคล็ง..โอ้ยย เซ็งว่ะ!!..” คยองซูนั่งด่าเพื่อนที่ชิงวางสายไปก่อนแล้วเดินไปเปิดทีวีดูหนังแก้หงุดหงิด
ฮึ่ยๆๆ..มือบางทึ่งผมตัวเองแรงๆอย่างโมโหไม่หาย
ชานยอลหัวเราะขำขันเมื่อวางโทรศัพท์จากเพื่อนแล้วกระโดดขึ้นรถเตรียมตัวท่องราตรีซักที..เสียงโทรศัพท์ดังเข้ามาเหมือนเพื่อนโทรมาตาม
ชานยอลก็ต้องรีบซิ่งไปให้ถึงเร็วๆจะได้ไม่ต้องโดนมันสับโขก
“ ไอ้โย่งง
มึงแม่งช้าโคตรๆเลย..” เพื่อนในกลุ่มมันคงปากคันยิกๆอยากด่าล่ะมั้ง
“ กูยุ่ง...”
“ อ้อ..ยุ่งไรวะ..กูเห็นมึงนั่งนอนอย่างเดียว..”
“
ก็ยุ่งที่นั่งนอนเนี่ยเหละไอ้พวกสาสสส..”
“ ไอ้คุณชาย!!!...”
พวกเพื่อนมันหาเรื่องพร้อมใจกันตะโกนใส่เขาท่ามกลางเสียงเพลงดังกระหึ่ม
มือหนารับแก้วเหล้าที่เพื่อนชงให้มาจิบบ้างโยกตัวตามเพลงบ้างแต่ก็นั่นแหละส่วนมากจะใช้สายตามองสาวๆซักคนที่มันไม่มีเจ้าของ
แล้วก็เจอเป้าหมาย อาฮะ...
ชานยอลกระดกแก้วเหล้าที่ถือหนึ่งทีแล้วเดินเข้าไปหาคุณเธอที่โยกสะโพกอยู่กลางฟลอสายตาไม่ต้องพูดถึงหรอกยั่วแล้วล่ะแบบนี้ต้องพาไปจัดเต็มซักที
หึๆๆ ร่างสูงเข้าไปซ้อนหลังมือหนาบีบสะโพกเต็มมืออย่างเมามันในขณะที่เต้นคลอเคลียร์กันไป
คนสวยในอ้อมแขนหันมาโอบรอบคอแกร่งแล้วทำการยั่วให้ชายหนุ่มตะบะแตก
แต่เขาคงตะบะแตกแน่ถ้าสายตาไม่เหลือบไปเห็นร่างบางอีกคนที่เหมือนถูกเมาเหล้าอยู่ที่โต๊ะ
ชานยอลเบิกตากว้างหลังจากผลักหญิงสาวออกอย่างเเรงแล้วเดินดุ่มๆเข้าไปที่โต๊ะนั้นด้วยความโมโห
หมับ!...
“
เอามือออกไปไอ้สัส..” ชานยอลกระชากคอเสื้อของอีกฝ่ายขึ้นพร้อมกับสวนหมัดหนักๆใส่มันอีกหนึ่งที
“ ตายห่า
พี่ชานยอล!!..”
พวกเด็กในกลุ่มวงแตกทันทีเมื่อเพื่อนถูกชกแถมไอ้คนที่ตามลงไปขึ้นคร่อมแล้วอัดหมัดใส่นี่ก็รุ่นพี่ในมหาลัย
“
มึงคิดจะทำอะไรคนของกูห๊ะไอ้สารเลว!..”
ชานยอลจับหัวมันโขกพื้นอีกทีนึงให้หายโมโหทั้งที่ไอ้คนที่นอนร้องโอดโอยไม่ต้องสงสัย
ร่างสูงลุกขึ้นพร้อมกับถ่มน้ำลายใส่ตาคมเหลือบมามองคนอื่นในกลุ่มที่ยืนนิ่งไม่กล้าขยับ
“
พวกมึงจำเอาไว้นะ..อย่ามาแตะต้องพยอนแบคฮยอน เด็กนี่เป็นของกู
ถ้ายังไม่เชื่อมึงลองดูอีกที..กูจะให้พวกมึงแดกน้ำข้าวต้ม!..” เสียงกร้าวดังลั่นก่อนที่ชานยอลจะเดินดุ่มๆมากระชากแบคฮยอนที่ไม่เหลือสติแล้ว
ร่างบางเซเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนยิ่งเมื่อรู้สึกถึงความอุ่นของร่างกายแบคฮยอนยิ่งเบียดตัวเข้าหา
“ ฮึกก..ระ..ร้อนน..”
เสียงหวานพึมพำในลำคอ
ชานยอลพยุงตัวน้องชายเพื่อนออกไปจากผับด้วยท่าทางหัวเสียเขาปลดล็อกรถแล้วเปิดประตูดันให้เด็กน้อยเข้าไปนั่ง
“
แบค..ได้ยินพี่มั้ย..”
“ อื้ออ...”
“
ห่าเว้ยไอ้พวกเวร..สัส จะไปกระทืบอีกทีทันมั้ยวะ..” คนตัวสูงได้แต่สถบด่า
เขาเดินไปเปิดประตูรถแล้วขับออกไปเพื่อพาแบคฮยอนไปส่งบ้าน
ร่างบางข้างๆครางอื้ออึงอยู่ในลำคอเหมือนทรมานอะไรซักอย่างตาคมเหลือบมองเป็นระยะๆด้วยความเป็นห่วง
“
ทำไมถึงกล้ามากับไอ้พวกเด็กนรกนั่นห๊ะแบคฮยอน..” เสียงทุ้มสถบไปมา
“
ร้อนน..มะ..มันร้อน ..”
“
แบคฮยอน..อย่าถอดนะเว้ย..” เสียงทุ้มร้องลั่นเมื่อเห็นมือบางแทบจะกระชากเสื้อตัวเองออก
“
ฮึกก..มะ..ไม่ไหวแล้ว..ฮึกก...”
ร่างบางร้องไห้ออกมาเมื่อร่างกายปล่อยเหงื่ออกมาเต็มกาย
ขนาดชานยอลเร่งแอร์รถให้เย็นฉ่ำแล้ว
ใบหน้าหวานแดงซ่านแถมยังหอบหายใจร่างบางเอนตัวเข้ามาชานยอลทันที
“ แบคฮยอนหยุด..พี่ขับรถอยู่ได้ยินมั้ย..”
“
พี่ฮะ..ฮืออ..แบคร้อน ..” เสียงหวานๆเหมือนออดอ้อนแต่เปล่า
อีกฝ่ายกำลังร้องไห้มือบางลูบไล้ไปบนแผ่นอกถ้าเกี่ยวคอให้ร่างสูงหันมาได้ล่ะก็ไม่มีทางรอดแน่ๆ
“
โดนยาใช่มั้ยห๊ะ...ไอ้พวรเวรมึงนะมึง..” คนขับรถที่ถูกลวนลามขบกรามแน่นแล้วต้องหักรถไปอีกทางที่ไม่ใช่บ้านของเด็กคนนี้
จะส่งให้ผู้ปกครองทั้งที่แบคฮยอนมีสภาพแบบนี้มีหวังเขาโดนพี่มันเล่นแน่
รถถูกจอดใต้คอนโดหรูที่ชานยอลชอบมาอยู่ช่วงเรียนหนักๆเขาพยุงตัวแบคฮยอนที่ตัวอ่อนไร้เรี่ยวแรงก่อนจะพาเข้าไปข้างใน
ห้องน้ำเป็นที่แรกที่ชานยอลเปิดเข้าไปหลังจากที่มาถึงห้อง
เขาอุ้มร่างบางของแบคฮยอนที่ร้องไห้เพราะความทรมาน
“
ใจเย็นนะ..เดี๋ยวก็หายนะครับเด็กดี..”
ชานยอลเปิดน้ำในอ่างอาบน้ำแล้วคว้าเอาฝักบัวมารดใส่ตัวให้คลายความร้อนรุ่มในกาย
เขารู้ทางเดียวคือการเอาออกแต่รู้อะไรมั้ย..เขาไม่กล้าพอจะสัมผัสเด็กคนนี้มากเกินไปถ้าไม่จำเป็น
“
ฮืออ..พี่ฮะ..ฮึก..อึดอัดมากเลย ฮืออ...”
ร่างบางกอดตัวเองสั่นเงอะงะอยู่ในอ่างอาบน้ำ
“
ไม่ร้องนะ..เดี๋ยวก็หายนะ..”
“
ช่วยด้วย..ฮืออ...” แบคฮยอนร้องไห้อย่างน่าสงสาร จนชานยอลต้องยกมือขึ้นขยี้หัว
ในหัวมีแต่คำว่าน้องไอ้เหลือก น้องไอ้เหลือก
“
เออ..ตายเป็นตายเว้ย!..”
ชานยอลกัดฟันพูดพร้อมกับกระชากตัวแบคฮยอนจากอ่างอาบน้ำทันทีเมื่อตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว
ร่างบางเบิกตากว้างเมื่อริมฝีปากอุ่นร้อนเบียดลงมาอย่างรุนแรงเร่าร้อน
ชานยอลดันให้ร่างเล็กๆของแบคฮยอนชนผนังห้องน้ำเย็นเฉียบใต้ฝักบัว เขาลูบไล้ไปทั้งตัวและเด็กในอ้อมแขนก็ยังกอดรัดร่างเขาเหมือนเชิญชวนจนไม่เหลือสติควบคุม
มือหนาบีบลงบนร่างกายที่เล็กกว่าอย่างรุนแรงเมื่อตัวเองไม่เหลือความรู้สึกยั้งคิด
ผู้ชายทุกคนมีความรู้สึกแล้วเกิดอารมณ์ได้ง่ายๆ
แบคฮยอนเหมือนของต้องห้ามที่เขาไม่เคยคิดจะแตะต้องแต่พอเจอเข้าจริงๆมันเหมือนยาพิษดีๆนี่เอง
ของหวานน่ากินแต่ถ้ากินเขาต้องตาย..
“
อื้มม...อื้ออ...” เสียงครางหวานๆดังออกมาจากลำคอ
ร่างบางเบียดร่างกายร้อนรุ่มเข้าหาร่างกายแข็งแรงแต่ก็ร้อนเหมือนไฟไม่แพ้กัน
มันคือไฟปรารถนา..ที่ปาร์คชานยอลเป็นคนจุดมันขึ้นมา มือหนาเลื่อนขึ้นมาขยุ้มผมนุ่มพร้อมกับเบียดปากและลิ้นชื้นแฉะเข้าไปในโพรงปากร้อน
“
อืออ...”
น้องไอ้เหลือก...
ถึงเป็นน้องเพื่อน..แต่เขาเองนี่แหละที่ไม่ไหวอีกแล้ว..อย่ามาโทษพี่นะแบคฮยอน..
“
อ่ะ..ชานยอล..อื้ออ...” แบคฮยอนร้องออกมาด้วยความรู้สึกเสียววาบไม่เคยเจอ จมูกโด่งเป็นสันซุกไซ้ไปตามลำคอชานยอลเบียดตัวพร้อมกับดูดคอขาวเหมือนมันเป็นอะไรซักอย่างที่น่ากิน
เขาเร่งปลดเสื้อของอีกฝ่ายทันทียังไงตอนนี้เขาก็คงไม่หยุดแล้ว
มันหยุดไม่ได้หรอก..ต่อให้เป็นอะไรซักอย่างที่ต้องตาย เขาก็คงไม่สน
ถ้าต้องถูกเพื่อนฆ่าเขาก็ไม่สนแล้วล่ะ..พยอนแบคฮยอนหอมหวานเกินไป
ใบหน้าหวานแดงซ่าน
ปิดเปลือกตาที่แสนปรือปรอยไม่อยากให้รู้ว่าตัวเขาเนี่ยแหละที่หลงใหล
มือบางบีบไหล่หนาแน่นรั้งร่างกายที่แทบทรุด
แขนแกร่งโอบรอบเอวบางแล้วพวกเขาก็จูบกัน
“
อึก..อ๊ะ..”
“
แบคฮยอน..” เสียงทุ้มกระซิบเสียงแหบพร่า ฉกฉวยริมฝีปากที่เริ่มบวมแดงบดขยี้แบคฮยอนอ้าปากออกอย่างกล้าๆกลัวรอรับลิ้นร้อนของอีกคนที่สอดเข้ามาเกี่ยวกับลิ้นอุ่นๆ
มันตวัดรัดรึงชานยอลกดหัวของแบคฮยอนเอาไว้ไม่ให้เบือนหนีในตอนที่เขาใช้เทคนิคดูดลิ้นให้คนตรงหน้าเคลิ้ม
เสียงดึงดูดริมฝีปากดังก้องในห้องน้ำ เพียงไม่นานที่ถูกทำให้เคลิ้มร่างสูงขยับอุ้มแบคฮยอนขึ้นในอ้อมแขนแล้วพาออกมาจากห้องน้ำที่เปียกชื้น
เขาวางร่างน้องชายที่ตัวสั่นน่ารักแล้วขึ้นคร่อม
มือหนาถอดเสื้อตัวเองออกให้คนตัวเล็กตาค้าง..แล้วจัดการดึงเสื้อผ้าของแบคฮยอนที่เปียกแฉะออกไป
ร่างกายขาวเนียนยิ่งยั่วกิเลสของไอ้ปาร์คคนนี้ชิบหาย
เขาถอดเสื้อผ้าของแบคฮยอนออกหมด
“
ถ้าเจ็บ..บอกนะครับเด็กดี..”
“
อื้อ...” เด็กดีที่ว่าพยักหน้าอย่างเขินอาย..นี่ตกลงแบคฮยอนมันโดนยาหรือกูโดนเองวะ..ความรู้สึกเขามันเหมือนสับสนแต่พอแขนเรียวคว้าต้นคอให้เขาลงไปจูบกับตัวเองนั่นแหละสติเลยมา
มือหนาลูบไล้ไปทั่วร่างจับขาเรียวอ้ากว้างแล้วตัวเองก็เป็นคนเบียดแทรกเข้าไปตรงกลาง
“
อึก..อื้ออ..” เสียงร้องของแบคฮยอนดังออกมาเมื่อมือหนาบีบลงบนแกนเนื้อที่มีอารมณ์
ชานยอลดูดปากแรงๆแล้วก้มลงไซ้ซอกคอ
มืออีกข้างบีบลงอกเเบนราบอย่างมันส์มือลืมไปว่าไม่ใช่ของผู้หญิงแต่แบคฮยอนก็ยังเอนอกเข้าหา
“
อ๊ะ..ชานยอล..”
“
ยั่วพี่รึเปล่าห๊ะ..”
“
อึก..รีบๆ..กินผมซิฮะ..นะ..” มือบางลูบแก้มสาก
สายตาที่มองมามันไม่ใช่แค่ยั่วยวนแต่มันมีอีกอย่างที่แฝงอยู่ซึ่งเขาไม่เก่งพอที่จะรู้
ชานยอลหัวเราะเบาๆก่อนจะจูบเบาๆบนริมฝีปากนิ่มยิ่งทำให้ร่างบางใต้ร่างเขิน
“
อืม..” แบคฮยอนกัดปากแน่นเมื่อชานยอลก้มลงไปครอบครองยอดอกสีสด
ใบหน้าหวานผงกหัวขึ้นมองมันยั่วยวน พี่ชานยอลของเขามีเสน่ห์จนห้ามใจไม่ได้
“
อ๊ะ..พี่ฮะ..” เสียงครางหวานๆดังกระตุ้น
ปากหยักทั้งกัดทั้งดูดไปทั้งตัวมือหนาลูบไปมาบนหน้าท้องแบนราบของอีกฝ่ายก่อนจะเร่งขยับแกนเนื้อสีพีซที่เริ่มมีน้ำออกมาเปื้อนมือ
แบคฮยอนบิดเร้ากรีดร้องเสียงดังยิ่งเมื่อเขาชักรูดให้ใกล้เสร็จ
ลิ้นอุ่นเร่งหยอกล้อติ่งไตที่เป็นอีกจุดอ่อนที่เขาพึ่งค้นพบ..เด็กนี่จะตัวสั่นกระตุกเมื่อเขาลงลิ้นกับยอกอก
“
อา..” เขาครางเบาๆเมื่อแบคฮยอนจับให้เขาขึ้นมารับจูบที่น่ากิน
ปากหยักขยี้มันอย่างแรงไม่ออมมือ
ก่อนจะปล่อยมือที่บีบบนแท่งเนื้อร้อนมาบีบไปทั้งตัวของพยอนแบคฮยอน
“
อ๊า..พี่..ไม่ไหวแล้วนะ..อึก..เข้ามาเร็วๆได้มั้ย..อื้ออ..”
“
หึๆ..เดี๋ยวเด็กดี..ไม่ต้องรีบนะครับ..” ชานยอลกระซิบเสียงพร่า เออ..กูเนี่ยแหละจะไม่ไหวไม่ต้องเร่งครับน้อง..พี่จัดให้แน่..แต่ขอดูดก่อนเถอะ
ชานยอลจับขาเรียวแยกกว้างแล้วก้มลงไปใช้ปากให้ตรงส่วนที่แข็งขืนใกล้ปลดปล่อยจนแบคฮยอนตัวสั่นไปหมด
ตากลมโตเบิกกว้างยกมือขึ้นปิดริมฝีปากนอนแผ่อยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกเหมือนจะขาดใจ
“
อ่ะ..อ๊า...อึก..พ..พี่..อ๊ะ..อื้ออ...” เสียงหวานกระตุกพูดไม่เป็นภาษา
เมื่อชานยอลใช้ลิ้นไล่เลียจนพอก่อนจะครอบครองมันด้วยริมฝีปาก
“
อืมม...” เสียงครางอือในลำคอของร่างสูงดังออกมาแผ่วเบา
ปกติไม่เคยออรัลให้ใครแต่กับเด็กนี่มันอดไม่ได้ว่ะ ยังไงก็ต้องขอลองล่ะเว้ย
“
ซี๊ดด..ยะ..อย่า..อื้ออ...” แบคฮยอนครางเหมือนจะขาดใจ
ยิ่งเมื่อชานยอลขยับรูดปากขึ้นลงจับขาเรียวขึ้นมาพาดไหล่
“
อื้ออ..พี่ชานยอล พี่ชานยอล..อึก..แบค..เสียวฮะ..” เสียงหวานสั่นไปหมด
มือบางขยุ้มลงบนผมหนาพยายามผลักออกไปแต่ชานยอลก็ดื้อไม่สนนอกจากใช้ปากรูดให้
ลิ้นอุ่นๆไล่เลียไปทั้งแท่งแม้กระทั่งดูดเม้มแรงๆบนส่วนปลายที่เริ่มมีน้ำออกมาเรื่อยๆ
นั่นแหละเด็กนี่กำลังจะไปเขาถึงต้องจี้จุด
“ ซี๊ด
อ๊า..อย่า..อื้ออ..ไม่ไหวแล้ว อึก..จะไป..อึก..พี่ฮะ..” แบคฮยอนร้องเสียงดังลั่นห้อง
พยายามผลักหัวอีกฝ่ายออกไปแต่เหมือนอีกคนจะไม่ยอม เจอเข้าไปไม่กี่ทีแบคฮยอนก็ต้องกระตุกตัวเกร็งแรงๆเมื่อน้ำอุ่นทะลักออกจากส่วนปลายของอารมณ์ดิบ
มันแตกเข้าปากของพี่ชานยอลโดยที่อีกฝ่ายไม่ยอมชักปากออก
“
อ่ะ..อ๊าาา...อื้ออ...”
ร่างบางหอบเหนื่อยนอกตัวสั่นไร้เรี่ยวแรงเมื่อปลดปล่อยมันออกมา
ชานยอลเก็บน้ำพวกนั้นเข้าปากอีกรอบก่อนจะขยับตัวขึ้นมาครอบครองริมฝีปากแดงเจ่อ
แบคฮยอนจูบตอบและต้องตาเบิกกว้างพยายามผลักร่างหนาออกไป
“
อื้ออ...” น้ำคาวที่ว่าถูกดันมันเข้ามาในโพรงปาก
ลิ้นร้อนๆเข้ามาเกี่ยวกับลิ้นเขาอย่างจาบจ้วงก่อนจะผละออกไป
มือหนาเอื้อมไปหยิบถุงยางในลินชัก ใบหน้าหวานที่เริ่มมีอารมณ์แดงซ่านเมื่อเห็นชานยอลใช้ปากฉีกถุงยางแล้วเอามาใส่อย่างรวดเร็ว
“
จุ๊บ..ป้องกันไว้ก่อนปลอดภัยทั้งคู่นะครับ..”
เขาจุ๊บปากเด็กน้อยที่หน้าแดงไปหมดแล้วแสยะยิ้มให้ ขาเรียวถูกจับอ้าอีกรอบชานยอลกระชากสะโพกบางให้ขึ้นมาเกยบนหน้าขาแล้วก้มลงไปจูบแบคฮยอนอีกรอบ
แต่คราวนี้ไม่ใช่แค่เอามือเล้าโลมทั่วไป
เขาส่งนิ้วยาวๆเข้าไปเบิกทางที่ร่างสูงกำลังจะเข้าไปด้านใน
แบคฮยอนกระตุกตัวแรงและร้องเหมือนเจ็บ
ชานยอลไม่ได้สนใจอะไรมากมายนอกจากชักนิ้วเข้าออกแล้วใส่เพิ่มเข้าไปเรื่อยๆใส่จนช่องทางนั้นบีบรัดจนสุด
“
เจ็บบบ...”
“
ใจเย็นแบคฮยอน..ไม่ขยายเธอจะเจ็บมากนะ “ ชานยอลพูดแล้วหยิบเจลหล่อลื่นมาทาบนแกนเนื้อแล้วค่อยๆสอดตัวเข้าไปในช่องทางด้านหลังที่บีบรัดแน่น
“
ซี๊ดด..อ่ะ..แบค..อย่า..รัดแบบนั้นครับคนดี..พี่เข้าไปได้นะ..”
“
อึก...เจ็บ..ฮืออ...” มือบางขยุ้มที่นอนเอาไว้ในกำมือ ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บร่างกายเขามันเกร็งกระตุกไปหมด
มันเจ็บ..
“
อา..แบคฮยอน..อย่าเกร็ง..”
“
อื้ออ..พี่ชานยอลแบคเจ็บบบ...อ๊าาา...”
ร่างบางกรีดร้องดังลั่นเมื่อชานยอลตัดสินใจจะดันมันเข้าไปทีเดียว
ชานยอลหยุดนิ่งเพื่อให้แบคฮยอนหายปรับตัว มือบางทุบลงบนอกเขาแรงๆแล้วร้องไห้ด้วยความเจ็บแต่จะให้เขาเอามันออกตอนนี้เนี่ยนะ..ฝันไปเถอะ..
“
ฮืออ..ออกไป..มันเจ็บ..ฮืออ..”
“
แบคฮยอน..อย่าร้องครับ..เดี๋ยวพี่จะขยับนะ ไม่เจ็บนะเด็กดี..”
ชานยอลพยายามพูดดีๆแล้วจูบเบาๆเพื่อให้เด็กน้อยหันมาสนใจอย่างอื่น
แขนบางบีบลงบนไหล่เขาแน่นและชานยอลก็เริ่มขยับสะโพก
“
อื้อ..เบาๆเนอะ..ไม่เจ็บใช่มั้ย..” ชานยอลพูดเสียงแหบพร่า
ใจจริงคือกูอยากกระแทกแล้วนะ..
แบคฮยอนซบหน้าลงกับแผ่นอกกว้างแล้วกอดรัดร่างของชานยอลแน่น
เสียงสะอื้นฮักยังคงอยู่แต่ก็ปล่อยให้ชานยอลขยับเข้าออกในช่องทางที่เขารู้สึกเจ็บเหมือนตาย..
“ อึก..อ่ะ...”
“
แบค..พี่จะขยับเร็วขึ้นโอเคนะ..พี่ไม่ไหวแล้วเข้าใจนะครับ..”
ชานยอลจำต้องบอกให้คนรับรู้ตัวว่าตอนนี้เขาไม่ไหวแล้ว
ถ้าเป็นคนอื่นเจ็บไปเถอะเขาไม่สน..
“
อื้ออ...” แบคฮยอนพยักหน้าเบาๆ
“
เก่งมากเลย “ ชานยอลจูบเบาๆตรงหน้าผากเนียนยิ่งทำให้แบคฮยอนใจเต้นตึกตัก
รู้สึกดีที่ให้ครั้งแรกกับคนที่ชอบแล้วเขาก็ให้ความสำคัญ
ชานยอลก้มลงจูบปากอีกรอบพร้อมๆกับขยับสะโพกกระแทกกระทั่นในจังหวะที่บอกเลยไม่ใช่แค่ค่อยๆแต่เริ่มอยู่ในจังหวะที่ร่างกายโยกคลอน
แบคฮยอนเบือนหน้าหนีแล้วยกมือขึ้นปิดปากแน่น
แต่เพราะพี่ชานยอลมีความสุขต่างหากล่ะ
“ อ่ะ..พะ..พี่ชานยอล..อื้ออ..”
“
ซี๊ดด อ่าา..แบคครับ..อื้มม..” ชานยอลกดปากลงไปบดขยี้อย่างรุนแรง
ทั้งเกี่ยวลิ้นทั้งดูดมันจนเจ็บเขาซี๊ดปากแล้วแสดงสีหน้าเหมือนสุดยอดมากออกมา
ยิ่งในตอนที่โดนกระแทกจนร่างกายกระทบดังกึกแล้วแบคฮยอนร้องออกมาด้วยเสียงที่บอกได้เลยว่ากูไม่ทน
ร่างกายกระแทกกระทั่นใส่กันในจังหวะที่เร็วขึ้นชานยอลบีบสะโพกเนียนด้วยความเสียวจากส่วนปลายที่ถูกบีบรัด
น้องก็น้องเพื่อนเถอะ ตอนนี้กูเอาทำเมียแล้วจะทำไมครับ..ไม่มีกฎหมายห้าม
แต่คงมีแต่กฎไอ้เหลือกเนี่ยแหละนะ..เฮ้อออ ค่อยว่ากันทีหลัง
ตอนนี้ขอกินน้องแบคฮยอนก่อน
“
ซี๊ดด อ๊าา..พี่ฮะ..แบคเสียว..”
“
เสียวก็ร้องครับ..ไม่เป็นไร ร้องดังๆเลยนะ..” ชานยอลพูดเสียงแหบพร่าสุดจะทน
สะโพกสอบกระแทกถี่ยิบแทบขาดใจแต่เขาเองก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
มือหนาจับรูดรั้งท่อนเนื้อที่เริ่มปล่อยน้ำออกมาอีกรอบ
ยิ่งแบคฮยอนเสียวมากร้องเสียงดังเท่าไหร่ ด้านหลังจะรัดเขาแทบกระอักแล้วแบบนี้จะไม่ให้เห็นสวรรค์ไงครับ..
“
ซี๊ดด..อาา..แบคครับ..พี่จะไปแล้วนะ..อื้ออ..”
“
อ่ะ..ยะ..ยะ..เ..พิ่ง..อื้อออ..”
แบคฮยอนชะงักเมื่อชานยอลกระแทกจนตัวลอยเป็นสัญญาณให้รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะไป
มือบางขยุ้มที่นอนไม่ทันครางสุดเสียง อีกฝ่ายก็ดึงมันออกจากโพรงร้อนที่บีบรัดแน่น
ก่อนจะดึงถุงยางออกเพื่อปล่อยมันลงบนหน้าท้องแบนราบที่หดเกร็ง
“
อาาาา...อืมม...” ชานยอลชัดรูดรั้งแกนเนื้อจนน้ำออกมาหมดก่อนจะ
ก้มลงไปจูบแบคฮยอนที่ยังไม่เสร็จดี มือหนารูดรั้งมันพรางใช้นิ้วสอดเข้าไปเบียดแรงๆ
จนร่างบางกระตุกกอดร่างเขาแน่น
“
อ่ะ..อื้อออ....” เสียงหอบหายใจดังหอบมาทั้งคู่
ชานยอลจูบลงบนหน้าผากเนียนก่อนจะล้มตัวลงนอนบนพื้นเตียงพร้อมกับดึงอีกคนให้ขึ้นมานอนซบอกแกร่ง..แบคฮยอนสอดแขนกอดร่างแกร่งด้วยความรู้สึกโหยหาความอุ่น
“
เจ็บมั้ย..พี่ขอโทษนะ..”
“
เจ็บฮะ..” แบคฮยอนช้อนตาขึ้นมองคนที่ลูบผมนิ่มไปมา แล้วส่งยิ้มอ่อนโยนที่แบคฮยอนชอบมาให้
“
ฮ่ะๆๆ..เดี๋ยวก็หายเนอะ..มาพี่จูบปลอบ..” เขาเกี่ยวลำคอของแบคฮยอนให้ขึ้นมารับจูบหนักหน่วงแต่วาบหวามสุดๆในความรู้สึก
มือหนาลูบไปตามแผ่นหลังเนียนแล้วต่ำลงมาบีบขย้ำก้นนิ่มอย่างหมั่นเขี้ยว
“
พี่ชานยอลลามก..”
“
อีกรอบนึงได้มั้ย..ไม่ไหวแล้วอ่ะ..”
ชานยอลจับมือของแบคฮยอนมาลูบเบาๆตรงส่วนอารมณ์ยิ่งทำให้อีกคนหน้าแดงจัดสุดๆ
“
กะ..ก็ได้ฮะ...”
ฟอดดดด..
“
น่ารักมากครับ..” เขาแหย่แล้วกดร่างบางลงเตียงอีกรอบ
แบคฮยอนคงเขินจัดที่อีกคนขึ้นมาคร่อมแล้วทำหน้าเจ้าเล่ห์แบบไม่เคยเห็นมาก่อน....
พี่ชานยอล..แบคฮยอนชอบพี่ชานยอลมากๆเลยนะฮะ...
แบคฮยอนรู้สึกตัวอีกทีในตอนเกือบเที่ยง
ร่างบางชะงักเมื่อถูกกอดรัดแต่พอเงยหน้าขึ้นแล้วเป็นหน้าพี่ชานยอลที่ยังหลับอยู่
รอยยิ้มบางๆก็เผยขึ้น แขนเรียวยิ่งกอดรัดแน่นและเลือกจะแนบหน้าลงบนอกกว้างเช่นเดิม
“
พี่..เป็นของผมแล้วนะฮะ...” คำพูดแผ่วเบาแต่สีหน้าที่เปลี่ยนไปนั่นทำให้แบคฮยอนรู้สึกเหมือนตัวเองมีความสุขในการครอบครองครั้งนี้จริงๆ..พี่ชานยอลเท่ห์ที่สุด
ใจดีมากด้วย...เขารู้สึกดีนะที่มีอะไรกับผู้ชายคนแรกแล้วเป็นปาร์คชานยอล
แต่คนๆนี้ไม่ใช่แค่ผู้ชายที่บอกว่ามีอะไรกันแล้วต้องรับผิดชอบ..เพราะงั้น...ความเจ้าชู้ก็ยังมีเป็นสันดานอยู่ดี..
ร่างบางขมวดคิ้วเมื่อต้องคิดว่าจะทำยังไงให้คนๆนี้หยุด...
“ อืมม...”
เสียงครางฮือดังขึ้นเหมือนรู้สึกตัว แบคฮยอนเงยขึ้นขึ้นมามอง
“
ตื่นแล้วเหรอฮะ...”
“
แบคตื่นนานแล้วเหรอ..” ชานยอลพูดเสียงงัวเงีย
“ เมื่อกี้เอง..”
แบคฮยอนยิ้มให้
ชานยอลก็เหมือนกัน..เขาจุ๊บเบาๆบนริมฝีปากนิ่มแล้วขยับตัวเพื่อจะไปอาบน้ำ
แบคฮยอนนอนลงบนหมอนมองเเผ่นหลังที่เดินเข้าไปอาบน้ำแล้วต้องขมวดคิ้วว่าจะทำยังไงต่อไปดี
วิธีที่จะทำให้ปาร์คชานยอลเป็นของพยอนแบคฮยอนเพียงคนเดียว...
